Babylon 2023

Babylon 2023 หนังพีเรียดสุดจัดจ้าน ที่คุณห้ามพลาด

ภาพยนตร์ฝีมือ เดเมียน ชาเซลล์ Babylon 2023 สิ่งมีค่า แลกด้วยความฝันอันยิ่งใหญ่ งานสร้างที่สามารถเทียบกับหนังสเกลใหญ่ ที่คุณต้องดู

Babylon 2023 หนังพีเรียดย้อนยุค จัดจ้านเน้น ๆ เต็มอิ่ม 3 ชม.

มาถึงคิวของหนังเรื่องล่าสุด อย่าง Babylon สำหรับในเรื่องนี้ อาจจะบอกได้ว่า…เป็นหนังที่เสียงค่อนข้างแตกอยู่ไม่น้อยจากกลุ่มผู้ชม ในกลุ่มหวังรางวัลในปีนี้ Babylon ผลงานล่าสุดของผู้กำกับหนุ่มสุดฮอต “เดเมียน ชาเซลล์” จาก La La Land ที่มีจุดเด่น ตรงหนังเรื่องดังกล่าว เป็น หนังพีเรียดย้อนยุค

เล่าเรื่องกลับไปเมื่อร้อยปีก่อน ซ้ำเนื้อหาต่าง ๆ ยังอัดแน่น ด้วยเนื้องานที่เต็มตาถึง 3 ชั่วโมง นับว่าเยอะ ยาวนานอย่างยิ่ง เทียบเท่ากับหนัง Avatar ภาคล่าสุดเลยทีเดียว แล้วตัวหนัง Babylon มันมีข้อเด่น หรือข้อด้อยตรงกันบ้าง? และควรค่า แก่การนั่งแช่ในโรงหนังนานขนาดนี้จริง ๆ หรือไม่? 

Babylon เป็นหนังแนวพีเรียด พาผู้ชมย้อนกลับไป ยังลอสแองเจลิส ในช่วงราว ๆ ทศวรรษ 1920 เรื่องราวเกี่ยวกับ ความทะเยอทะยานเกินเบอร์ และพฤติกรรมสุดเหวี่ยง ที่เรียกได้ว่า เกินพิกัดจากคนปกติ และถ่ายทอดเรื่องราว สตอรี่ต่าง ๆ ก้าวสู่ยุครุ่งเรือง ก่อนจะนำไปสู่ยุคของการล่มสลาย ของหลากหลายตัวละคร

ในช่วงยุคแห่งความเสื่อมโทรม และความเลวทรามต่าง ๆ ในระหว่างนั้น ช่วงฮอลลิวูดยุคบุกเบิกเริ่มต้นแรกเริ่มที่แสนสดใส เต็มไปด้วยแสงสี อันน่าหลงใหล เย้ายวลใจ และภาพมายาที่ลวงหลอก

นี่ถือได้ว่า เป็นผลงาน ที่ทาง เดเมียน ชาเซลล์ ภูมิใจที่จะนำเสนอออกมาสู่สายตาคนดู เพราะเขาพยายามปลุกปั้นอยู่หลายปี กว่าวันนี้จะมาถึง และยังเป็นโปรเจกต์หนัง ที่หลาย ๆ ค่าย ต่างให้ความสนใจ และจับจ้อง แถมยังพยายามจะแย่ง เอามาเป็นเจ้าของด้วย แน่นอนว่า เดเมียน ชาเซลล์ ยังคงรับหน้าที่ดูแลงานกำกับ และเขียนบทหนังด้วยตัวเอง

ซึ่ง Babylon ก็ยังเต็มไปด้วย ลายเซ็นชัด ๆ อันเป็นเอกลักษณ์ ในลีลาการทำหนัง รูปแบบของ เดเมียน ชาเซลล์ อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็น งานภาพ งานเสียง และเซตติ้งต่าง ๆ ผู้กำกับรายนี้สามารถทำออกมาได้เป็นมืออาชีพ และโชว์ฝีมือให้ผู้ชมได้ตื่ตาตื่นใจอยู่ตลอดเวลา

ความยาวของหนังเรื่อง Babylon ที่มีถึง 3 ชั่วโมง 9 นาทีนั้น ไม่ได้เป็นอุปสรรคใด ๆ เลย เมื่อเทียบกับความบันเทิงที่ เดเมียน ชาเซลล์ ตั้งอกตั้งใจปั้นขึ้น ต้องขอบคุณที่หนังเรื่องนี้ ที่มีการสร้างจังหวะ การเล่าเรื่องที่บันเทิง และสนุกไม่น้อย แม้ว่าระหว่างที่ดู ผู้ชมบางราย จะมีอาการปวดเบาอยู่นิดหน่อย เนื่องจาก 3 ชั่วโมงมันก็เยอะไม่เบา

แต่ถึงอย่างนั้น ก็พอเก็บทนเอาไว้ได้ เพราะหลาย ๆ คนก็ไม่อยากพลาดองค์ประกอบใด ๆ ในหนังความยาว 3 ชั่วโมงเรื่องนี้เลย เก็บครบ จบทุกประเด็น มาเอื้อนเอ่ยถึงจุดที่น่าชื่นชมกันก่อน งานออกแบบ งานโปรดักชั่นเรื่อง Babylon ต้องยกนิ้วให้ หากเทียบสเกลดี ๆ ก็แทบจะเป็นหนังฟอร์มใหญ่ ระดับทุนร้อยล้านขึ้นไปได้เลย

ด้วยความที่หนัง Babylon เป็นหนังที่ค่อนข้าง จะมีรายละเอียดต่าง ๆ ในหนังค่อนข้างเยอะ กว่าหนังสเกลเดียวกัน งานโปรดักชั่นส่วนใหญ่ สำหรับหนังเรื่องนี้ ต้องเก็บรายละเอียด ของยุคสมัย ในช่วงยุคปี 1920s อย่างดี พร้อมกับเล่าเรื่อง ไล่ไทม์ไลน์ไปตามยุคสมัยได้อย่างลงตัว การออกแบบฉาก และศิลป์ต่าง ๆ ของเรื่อง Babylon

โดยรวมสามารถทำออกมา ได้ค่อนข้างน่าพอใจ ตรงใจใครหลาย ๆ คน สิ่งที่ถ่ายทอดออกมา ทำให้ผู้ชมหลาย ๆ คนละสายตาไปกับ แวดล้อมในหนังไม่ได้เลย แม้ว่าจังหวะต่าง ๆ ใน Babylon ลีลา ฉับไว จนบางครั้งแทบจะมองไม่ทัน บ้างก็ตาม แต่องค์ประกอบเหล่านี้ ถือว่าโดดเด่นดี ทำออกมาได้น่าชื่นชมไม่น้อย

Babylon 2023 หนังใหม่

เพลงประกอบ ร่วมสมัย ไม่เชยอย่างที่คิด ช่วยให้หนังมีมนต์ขลัง

คะแนนด้านการเลือกใช้เพลง และดนตรีประกอบ : 🌕🌕🌕🌕🌕

อีกสิ่งที่ต้องปรบมือให้ดัง ๆ ก็คืองานดนตรี สำหรับการใช้เพื่อ ประกอบภาพยนตร์ โดยที่ได้เจ้าเดิมอย่าง “จัสสิต เฮอร์วิตซ์” ผู้ที่เคยมีผลงาน ในการทำเพลงให้กับ La La Land มาบรรเลง และจุดประกายไฟอันร้อนแรง ให้กับซาวน์หนังเรื่อง Babylon นี้ ที่หลัง ๆ ยังคงใส่ท่วงทำนอง เครื่องเป่าสไตล์แจ๊ส ที่แสนไพเราะ เอาไว้ได้ อย่างเป็นเอกลักษณ์เช่นเคย 

แน่นอนว่า หากคุณเป็นแฟนนักประพันธ์ท่านนี้ ก็จะสามารถสัมผัสได้ ถึงลายเซ็นอันเป็นเอกลักษณ์ ในชิ้นงานของเขาได้ดี และนอกจากนี้ ยังรวมถึงเพลงประกอบต่าง ๆ แต่ละเพลงก็สามารถทำออกมาได้ดีไม่น้อย

เมื่อดูดี ๆ แล้ว ก็ช่วยส่งเสริมอารมณ์ ของหนัง Babylon  ได้เป็นอย่างดี ครบเครื่องมากขึ้นทันตา  ทั้งสุข ทั้งเศร้า ทั้งปาร์ตี้ ทั้งโศกนาฏกรรม ที่ถือว่ามอบซาวน์อันไพเราะ แสนจัดจ้าน เข้ามาเป็นส่วนประกอบที่ดีงามไม่น้อย

เสื้อผ้า หน้าผมว่าไม่ได้ ไม่เด่น แต่มองไม่เบื่อ

คะแนนด้านเสื้อผ้า หน้าผม : 🌕🌕🌕🌕🌑

ขณะที่องค์ประกอบ ในเรื่องของเสื้อผ้า หน้าผม และการแต่งหน้าของนักแสดง แต่ละคนจากเรื่อง Babylon เรื่องนี้ ที่ก็จัดได้ว่า ทำออกมาได้ค่อนข้างดี ไม่น้อย เพียงแต่ว่า อาจจะยังขาดในเรื่องของความโดดเด่น ที่ยังไม่เป็นที่สุดมากนัก เพราะความละเอียดต่าง ๆ ทั้งในเรื่องของชุดแต่ละชุด ที่นักแสดงต้องใส่ และการออกแบบ ให้กับตัวละคร 

ในหนังเรื่องนี้นั้น ผู้ชมหลาย ๆ คน ยังแอบสัมผัส ได้ถึงความร่วมสมัยที่แอบแฝงอยู่เบา ๆ ไม่ได้ล้าหลัง หรือตกยุคมากขนาดนั้น เน้นเก็บเอาไว้เฉพาะ เส้นเรื่อง ความเป็นเอกลักษณ์ ของยุคตามเรื่องสักเท่าไหร่

แต่ก็นับว่ายังโชคดี ที่เมื่อผู้ชมได้เข้าไปดู จุดต่าง ๆ เหล่านี้ถูกมองข้ามไป เพราะงานโปรดักชั่นที่ดีพร้อม และผลงานดีไซน์ที่ตื่นตา และตรึงใจได้ดี

การเล่าเรื่อง ตลอด 3 ชม. ระยะเวลาปราบเซียน ที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง

คะแนนด้านบทภาพยนตร์ : 🌕🌕🌕🌑🌑

ส่วนบทหนัง และการเล่าเรื่องของ Babylon อาจจะต้องยอมรับตรง ๆ ว่ายังไม่ค่อยน่าประทับใจถึงที่สุดนัก อาจจะเพราะเป็นว่ารายละเอียดที่ถูกใส่มาเยอะและแน่นเกินไป แม้ว่าจะสัมผัสได้ถึงเจตนารมณ์ และวัตถุประสงค์ของ เดเมียน ชาเซลล์ ที่ต้องการความคลาสสิกและต้นตำรับของจุดกำเนิดวงการภาพยนตร์ฮอลลิวูด สิ่งที่เขาอยากจะสื่อสารออกมานั้นถือว่าชัดเจน เพียงแต่ว่าเนื้อหาที่นำมาละเลงในหนังเรื่องนี้ค่อนข้างแน่นไปเสียหน่อย แม้จะยังรู้สึกชอบแต่ก็ไม่รู้ว่า จะโฟกัสตรงไหนก่อนดี

อีกหนึ่งสิ่ง ที่จะไม่พูดถึง ก็คงจะไม่ได้ อันที่จริงหลาย ๆ คนที่ได้ชมภาพยนตร์ จะค่อนข้างรู้สึกขนลุก ไปกับบทสรุป ในช่วงท้ายของ Babylon ที่เป็นการสรรเสริญ ความเป็น Cinematic ที่สืบทอด สืบต่อกันมานับร้อยปีของวงการนี้ เพียงแต่ หากพิจารณาดูอย่างถี่ถ้วน ก็แอบรู้สึกเหมือนว่า ทีมผู้สร้างยังหาจุดลงที่งดงามได้ไม่เจอ 

ฉากที่แสนสำคัญอันเป็นบทสรุปท้ายเรื่อง ของหนังเรื่อง Babylon จึงมีทั้งอารมณ์ตื้นตัน และมึนงงไปพร้อม ๆ กัน ให้ความรู้สึกไม่สุด เพราะไม่คิดว่า จะเลือกทางลง ให้กับทางเลือกใดดี ทั้งที่จริง ๆ แล้วน่าจะมีสักทาง ที่สามารถทำตอนจบ ให้ออกมาได้คมคาย และสวยงามมากกว่านี้

ตัวละครมีเสน่ห์ สมบทบาท ทำหน้าที่ได้หน้าสนใจ ดึงดูดผู้ชมได้มากพอตัว

คะแนนด้านบทบาท ของแต่ละตัวละคร : 🌕🌕🌕🌕🌑

ทางด้านการแสดง ของทีมนักแสดงแต่ละท่าน ในเรื่อง Babylon ก็ถือว่าพวกเขา สามารถทำออกมา ได้ดีตามมาตรฐานเป๊ะ ๆ “แบรด พิตต์” พระเอกมากฝีมือ ที่ใคร ๆ ต่างยอมรับ ว่ามาช่วยพยุง ทั้งเรื่องเอาไว้ได้ ด้วยความเป็นมืออาชีพ และพรสวรรค์ทางด้านการแสดงของเขา ทางด้านของ “มาร์โกต์ ร็อบบี้” ในเรื่องนี้ ผู้ชมจะได้เห็นเธอ ใส่เสน่ห์ไปเต็ม ๆ กับบทบาทการแสดงนำ ที่เธอได้รับในเรื่อง Babylon นี้

และยังเล่นไปสุดทาง กับตัวละครที่ได้รับมอบหมายจากเรื่องนี้ แม้ว่าอาจจะดู รวม ๆ แล้ว Babylon เป็นบทซ้ำ ๆ ไปหน่อยก็ตามที ในขณะที่ “ดิเอโก คัลวา” เป็นหนุ่มหล่อ ลาตินหน้าใหม่

ที่ถือว่าในเรื่อง Babylon โปรยเสน่ห์ได้แพรวพราวสุด ๆ และเข้ากับบทที่ได้รับอย่างดี เป็นตัวละครที่ดึงดูดใจสาว ๆ ได้มากพอตัว ถึงการแสดงของเขา ยังต้องลับคมไปอีกสักหน่อย แต่นี่ก็ตัดได้ว่าเป็นสัญญาณที่ดี 

ทำความรู้จัก กับทำนองของดนตรี แจ๊ซ ที่มาของสีสันใน Babylon

แจ๊ซ หรือ แจซ ( jazz) เป็นลักษณะดนตรี ชนิดหนึ่งที่ในอดีต ได้เริ่มพัฒนามาจาก กลุ่มคนผิวดำในสหรัฐอเมริกา (African Americans) ในช่วงราว ๆ ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 20 โดยแจ๊สจะมีลักษณะพิเศษ คือโน้ตบลูส์ การโต้ การขัดจังหวะ จังหวะสวิง และตอบทางดนตรี และการเล่นสด โดยแจ๊สถือเป็นลักษณะดนตรี สุดคลาสสิกที่หลาย ๆ คนค่อนข้างโปรดปราน ชนิดหนึ่งของสหรัฐอเมริกา

ดนตรีแจ๊ส มีต้นกำเนิดราว ๆ ในทศวรรษ 1920 โดยวงดนตรีวงแรก ที่ริเริ่มนำสำเนียงแจ๊ซ มานำเสนอสู่ผู้ฟังจนกลายเป็นจุดเริ่มต้น คือ ดิ ออริจินัล ดิกซีแลนด์ แจ๊ซ แบนด์ (The Original Dixieland Jazz Band : ODJB) เนื่องจากว่า เป็นจังหวะเต้นรำ ที่ในเวลานั้นค่อนข้างที่จะแปลกใหม่ ทำให้โอดีเจบี กลายเป็นที่กล่าวขวัญ เรื่องลือ กันอย่างมากนับตั้งแต่นั้น พร้อมกันนี้พวกเขา ก็ได้ให้กำเนิดคำว่า “แจ๊ซ” ตามชื่อวงดนตรี โอดีเจบี อีกด้วย ความสำเร็จในเวลานั้น ส่งผลให้พวกเขา สามารถขายแผ่นได้ถึงล้านแผ่นเลยทีเดียว

Babylon 2023 แจ๊ส

รากลึกของแจ๊ซนั้น ว่ากันว่ามีมาจาก เพลงบลูส์ (Blues) คนผิวดำ ซึ่งก็ตรงกับนักดนตรี จากเรื่อง Babylon ที่เล่นเพลงบลูส์เหล่านี้ เรียนรู้ดนตรีจากการฟัง เป็นพื้นฐานหลัก ด้วยเหตุนี้ในบางครั้ง จึงเล่นดนตรีแบบถูกบ้างผิดบ้าง เพราะจำมาไม่ครบถ้วน ขาดตกบกพร่องไปตามประสา ก่อนที่จะมีการขยายความ ด้วยความพึงพอใจ ของตัวเองเป็นหลัก ซึ่งในที่สุด ก็กลายเป็นที่มาของ คีตปฏิภาณ (Improvisation) อย่างที่หลาย ๆ ท่านคุณเคยกันเป็นอย่างดี

คีตปฏิภาณ (Improvisation) คือ การแต่งทำนองเพลง ขึ้นมาใหม่ แบบสด ๆ เรียลไทม์ โดยไม่ได้ มีการเตรียมตัวมาล่วงหน้า อีกนัยหนึ่ง คือการโซโล่แบบด้นสด อย่างที่เรามักจะเห็นกันในปัจจุบัน

ในภายหลัง ดนตรีที่มีลักษณะคล้าย ๆ กันอย่างแร็กไทม์ (Ragtime) ก็ทำให้หลาย ๆ คน ค่อนข้างปักใจเชื่อว่า มีต้นกำเนิดคล้าย ๆ กันคือ เกิดจากดนตรียุโรป ผสมกับจังหวะขัด ๆ ของแอฟริกัน บลูส์ และแร็กไทม์นี่เอง ที่สุดท้ายแล้ว เป็นรากของดนตรีแจ๊ซในเวลาต่อมา

ในช่วง ทศวรรษที่ 1920 และ 1930 สหรัฐเข้าร่วมสงครามโลก ครั้งที่ 1 ทางการเริ่มประกาศ สั่งปิดสถานเริงรมย์ในนิวออร์ลีนส์ ทำให้นักดนตรีส่วนใหญ่ ในช่วงเวลานั้น ต่างจะต้องขยับขยาย เดินทางมาหากินในชิคาโก นิวยอร์ก และ ลอสแอนเจลิส ส่งผลให้ทั้ง 3 เมือง กลายเป็นแหล่งบ่มเพาะนักดนตรีแจ๊ส ไปโดยปริยายในช่วงนั้น

แน่นอนว่า ชิคาโกดูจะเป็นเมือง ที่มีความก้าวหน้าทางดนตรีแจ็ซ ในระดับที่จัดได้ว่า เหนือกว่าอีก 2 เมือง เพราะที่นั่นมีนักดนตรีมาทำงานเป็นจำนวนมาก ชิคาโก คึกคัก จนกลายเป็นเมืองที่ทำให้ หลุยส์ อาร์มสตรอง (Louis Armstrong) เป็นที่รู้จัก และกลายเป็นนักดนตรีที่มีชื่อเสียง นักร้องแจ๊ซชื่อก้องโลกในเวลาต่อมา

2 นักแสดงดัง นำทีมความจัดจ้าน นำทัพ Babylon

วิลเลียม แบรดลีย์ พิตต์ (William Bradley Pitt) รู้จักกันเป็นอย่างดี ในนามของนักแสดง และโปรดิวเซอร์ภาพยนตร์ ชาวอเมริกันมากฝีมือ ผู้ได้รับรางวัลมากมาย รวมถึงรางวัลออสการ์, รางวัลแบฟตา  และรางวัลลูกโลกทองคำมากถึง 2 ครั้ง สำหรับการแสดงของ วิลเลียม แบรดลีย์ พิตต์ นอกจากนั้นยังได้รับรางวัลออสการ์ 2 ครั้ง, รางวัลแบฟตา 2 ครั้ง และรางวัลลูกโลกทองคำอีก 3 ครั้ง ในฐานะผู้อำนวยการสร้างผลงานต่าง ๆ ภายใต้บริษัทผลิตภาพยนตร์ แพลนบีเอนเตอร์เทนเมนต์ อีกด้วย

แบรด พิตต์ เริ่มเป็นที่รู้จักในวงการภาพยนตร์ จากผลงานในเรื่อง Thelma & Louise (ราว ๆ ปี 1991) กับบทบาท เจ.ดี. หนุ่มนักโบกรถสุดเซ็กซี่ ที่หลาย ๆ ท่านน่าจะพอผ่านตากันมาบ้าง แม้ว่าหนังเรื่องนี้จะไม่ได้สร้างรายได้มากมาย แต่นี่ก็จัดได้ว่า เป็นเหมือนประตูด่านแรกของ แบรด พิตต์ ที่ทำให้เขาเริ่มต้นเป็นที่รู้จักในวงการฮอลลีวูด

จนในที่สุด ถึงผลงานแจ้งเกิด แบรด พิตต์ อย่างเต็มตัวเรื่อง Interview with a Vampire ในปี 1994 ก็มาถึง เขาแสดงประกบกับ ทอม ครูส และเคิร์สเตน ดันสต์ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ และยิ่งโดดเด่นมากขึ้น กับการถูกเสนอชื่อ ให้เป็นส่วนหนึ่งของ การเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ จากบท ทริสตัน ชายหนุ่มเลือดร้อน ที่มีความมุ่งมั่นแรงกล้า กระหายชัยชนะ ใน Legends of the Fall ในปีเดียวกัน ซึ่งหลังจากนั้น แบรด พิตต์ ก็มีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่อง ที่น่าสนใจคือ แต่ละเรื่อง ล้วนเป็นหนังทำเงินทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น Se7en (1995), 12 Monkeys (1995) Fight Club (1999) จนมาถึง Babylon ในตอนนี้

Babylon 2023 นักแสดงนำ

เชื่อว่าแฟนหนังหลาย ๆ คนคงคุ้นหน้า มาร์โกต์ ร็อบบี้ กันเป็นอย่างดี ผลงานอันสร้างชื่อของเธอ เปลี่ยนแปลงชีวิตไปอย่างมหาศาล เพราะเธอจัดได้ว่า เป็นดาวรุ่งพุ่งแรง ที่จังหวะหนึ่งของชีวิต ได้ก้าวขึ้นมาทัดเทียม กับบรรดานักแสดงฮอลลีวูด รุ่นพี่ทั้งวงการ โดยใช้เวลาไม่ถึง 10 ปีเท่านั้น ด้วยผลงานการแสดง หลากอรรถรส มาล้นด้วยเสน่ห์อันเหลือร้าย ที่สะท้อนฝีมือของเธอ

จนทำให้สาวมาร์โกต์สามารถก้าวขึ้น ไปบนเวที ก่อนที่จะคว้ารางวัลมากมาย กลับมานอนกอดไว้อย่างอุ่นใจ รวมไปถึงการหันมาจับงาน เบื้องหลังของวงการภาพยนตร์ เพื่อหวังที่จะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่าง ๆ ให้ครบมิติมากขึ้นด้วย เรียกได้ว่าเป็นสาวสวย มากความสามารถ ที่ทรงเสน่ห์ ตัวจริง เสียงจริงเลยทีเดียว

ส่วนใครที่ยังไม่รู้จัก มาร์โกต์ ร็อบบี้ ยังแปลกใจ ในการมารับบทนำ ในเรื่อง Babylon บอกเลยว่าเธอผู้นี้คือผู้รับบท ฮาร์ลีย์ ควินน์ สาวแสบซ่า จากภาพยนตร์เรื่อง Suicide Squad ที่แค่เปิดรูปออกมา จะต้องร้อง “อ๋อออ” กันอย่างแน่นอน ผลงานดังสร้างชื่อเสียงให้เธอ อย่างมากนั่นเอง ในเรื่องนี้ ก็ต้องยอมรับเลยว่า มาร์โกต์ ร็อบบี้ สามารถถ่ายทอดการแสดง สีหน้า แววตา ออกมาได้อย่างดีเยี่ยม สวมบทบาทการเป็นนักแสดงนำ ได้อย่างลงตัว

โดยที่เธอเองนั้น ทุ่มเท ทั้งแรงกาย และแรงใจอย่างสุดความสามารถ เพื่อให้ภาพยนตร์ Babylon ออกมาฉาย ได้อย่างลงตัวที่สุด สำหรับการร่วมงานกับนักแสดงดังรุ่นพี่ มาร์โกต์ ร็อบบี้ ก็ไม่ทำให้หลายคนนอย สามารถเข้าฉาก และรับส่งอารมณ์ กันได้อย่างสมความสามารถ สมการคาดหวังของหลาย ๆ ฝ่าย ไม่มีผิดเพี้ยน จนน่าชื่นชม

เช็คกระแส Babylon จะรอดอยู่หรือไม่ ในยุคนี้

แม้ภาพยนตร์ Babylon จะถูกสร้างอย่างพิถีพิถัน ไม่ว่าจะเป็นงานภาพ ฉากย้อนยุคสุดอลังการ หรือแม้แต่ทำนองประกอบภาพยนตร์ ที่ถูกคัดสรรมาอย่างดีพร้อม แต่เมื่อ Babylon ออกฉายได้สักระยะ ก็ต้องถือว่า เป็นช่วงเวลา ที่โชคไม่เข้าข้างภาพยนตร์ เรื่องนี้เอาเสียเลย

เพราะถ้าดูจากผลงานที่ผ่านมา  นักแสดงแต่ละคนในเรื่อง Babylon โดยเฉพาะ ร็อบบี้ ที่มารับบทเป็นนางเอกสาว เธอผู้นี้เรื่องรับงานได้อย่างฉลาด ไม่ค่อยพลาดมาโดยตลอด พิสูจน์ได้จากผลงานร้างชื่อของเธอที่ผ่าน ๆ มา

แต่แล้วปีนี้ กลับไม่ใช่ปีของเธอเสียแล้ว เมื่อหนังก่อนหน้าอย่างเรื่อง Amsterdam ผลงานของผู้กำกับ อย่าง เดวิด โอ. รัสเซล (David O. Russell) ที่ได้รวบรวมเอานักแสดง มาอัดแน่นไว้เป็นจำนวนมาก ทั้ง คริสเตียน เบล, จอห์น เดวิด วอชิงตัน. แอนยา เทย์เลอร์ จอย, คริส ร็อก และ โรเบิร์ต เดอนีโร แต่ละรายชื่อเหมือนจะเป็นไปได้ด้วยดี 

แต่กลับกลายเป็นว่า พลังดารามากมายขนาดนี้ ไม่ได้ช่วยอะไรแม้แต่น้อย Amsterdam กลับไม่สามารถช่วยชีวิต หนังเรื่องดังกล่าวได้เลย หนังออกฉายเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา  ซึ่ง Amsterdam สามารถทำเงิน จากการฉายทั่วโลกไปได้แค่ 31 ล้านเหรียญ ทั้ง ๆ ที่ใช้ทุนสร้างมากถึง 80 ล้านเหรียญ เรียกว่าเจ๊งเละเทะ สำหรับ ร็อบบี้ ภาพยนตร์เรื่อง Babylon จึงเป็นความหวังของเธอ ว่าจะช่วยกู้หน้ามาได้ 

อย่างที่ทราบดี Bablylon เล่าเรื่องราว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในช่วงทศวรรษราว ๆ 1920 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ฮอลลีวูด กำลังเข้าสู่ยุคการเปลี่ยนแปลง ครั้งยิ่งใหญ่ของวงการนี้ จากภาพยนตร์สุดเงียบเหงา ไปสู่ยุคของภาพยนตร์เสียงบนฟิล์ม

เป็นช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์ ของวงการฮอลลีวูด ที่พลิกฟื้นกลายเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ หนัง Bablylon จะเล่าเรื่องราว เหตุการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตของเหล่าตัวละคร แต่ละตัวที่หลากหลาย โดยมีทั้งรุ่งโรจน์ และตกอับปะปนกันไป ตามที่ได้เผชิญ

Babylon 2023 ร็อบบี้

นักวิเคราะห์หลาย ๆ ท่าน ลงความเห็นว่า Bablylon น่าจะคว่ำ หลังจากที่ได้รับชมภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว อย่างเป็นทางการ เพราะสาเหตุหลายประการ อย่างแรกคือ หนัง Bablylon ได้คะแนนรีวิวค่อนข้างย่ำแย่ หรือเรียกง่าย ๆ ว่าไม่ถูกจริตของผู้ชมเท่าไหร่นัก

ได้มะเขือเน่าจากเว็บ Rottentomatoes นักวิจารณ์ทั้งสิ้น 221 คน ให้คะแนนรวมอยู่ที่ 55% ในขณะที่คะแนน ผลรวมจากคนดูแย่กว่า อยู่ที่ 48%, สาเหตุที่2 ที่ลาย ๆ ฝ่ายคนค่อนข้างเห็นตรงกัน ก็เป็นเพราะความยาว ของหนังในเรื่องนี้ ที่มีมากถึง 3 ชั่วโมง 8 นาที นี่ถือว่านานเกินไป จนหลาย ๆ คนเลือกที่จะไม่ตีตั๋วเข้าไปชมตั้งแต่แรก

ปัจจุบัน เราอยู่ในยุคที่ มีช่องสตรีมมิงให้เลือกชม อยู่กับบ้านมากมาย ตัวเลือกเหล่านี้ทำให้กลุ่มผู้ชม มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป เมื่อผู้ชมเห็นความยาวที่เกิน 3 ชั่วโมงแบบนี้ มันก็ไม่น่าแปลก ที่หลาย ๆ คนก็จะมีอาการขี้เกียจ ที่จะต้องออกจากบ้าน เพื่อมาซื้อตั๋ว จากนั้นก็รอเวลา เพื่อที่จะอยู่ในโรงหนังมากกว่า 3 ชั่วโมงไปโดยปริยาย โดยที่ก็ไม่รู้ว่าจะสนุกจริง ๆ หรือไม่

แต่ถึงคะแนนรวม ๆ จะไม่ได้ดีมากนัก แต่ก็เป็นเรื่องน่าแปลก อยู่สักหน่อย ในวันที่ Bablylon เปิดตัวช่วงแรก ๆ นั้น หนังได้คะแนนค่อนข้างดี แต่ผ่านไปแต่ละวัน คะแนนที่ Bablylon ได้รับก็ค่อย ๆ ดิ่งลงเรื่อย ๆ แม้ว่า Babylon จะได้คะแนนจากนักวิจารณ์ไม่สู้ดีนัก เพราะมีข้อติเตียนหลายอย่าง แต่ก็มีจุดหนึ่งที่นักวิจารณ์หลายท่าน

และผู้ชมเห็นพ้องต้องกันว่า การแสดงของ มาร์โกต์ ร็อบบี้ เธอสามารถทำได้ดี เพราะในเรื่องนี้เธอโดดเด่นมาก เรียกได้ว่าควรค่าแก่การเสนอชื่อ เพื่อที่จะ เข้าชิงออสการ์ ในสาขานักแสดงนำหญิง เป็นครั้งที่ 2 เลยก็ว่าได้

ขอบคุณที่มาจาก : Babylon ดนตรีแจ๊ส แบรด พิตต์ กระแสภาพยนตร์

ปิด
QUEENCLUB88 แจกโบนัสฟรี 100%

QUEENCLUB88 แจกโบนัสฟรี 100%

โบนัสฝากเงินครั้งแรก 100%