เตรียมพบกับความการเชือดเฉือนดุเดือด ดวนความมันด้วยอาคม เมื่อใดไร้ซึ่งอาคม ศรัทธาเสื่อม ยุติธรรมสลาย แผ่นดินลุกเป็นไฟ ถึงเวลาแห่งการพิพากษา พบกับความดุเดือด ขุนพันธ์ 3 ภาพยนตร์ไทยกับการล้างแค้นอย่างบ้าระห่ำ สาดกระสุนไปด้วยกัน พร้อมเหล่านักแสดงมากความสามารถ 2 มีนาคม 2566 นี้
สารบัญ
ดวนความมันด้วยอาคม ขุนพันธ์ 3 ได้ฤกษ์ปล่อยตัวอย่างฉบับเต็ม
อีกเพียงไม่กี่อาทิตย์ เราจะได้ไปสัมผัสกับศรัทธาคลั่ง อาคมเดือด ในแฟรนไชส์ หนังไทย ที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง และกลับมาอีกครั้งในขุนพันธ์ ภาค 3 สำหรับแฟน ๆ ที่เป็นคอหนังแนวแอ็กชันดุเดือด เตรียมอุ่นเครื่องก่อนไปปิดตำนานไตรภาคของหนังชุดนี้กัน เตรียมเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วไทยแล้ว วันที่ 2 มีนาคม 2566
ในหนังเรื่อง “ขุนพันธ์” มาพร้อมกับคำโปรยที่ว่า “เมื่อใดไร้ซึ่งอาคม ศรัทธาเสื่อม ยุติธรรมสลาย แผ่นดินลุกเป็นไฟ ถึงเวลาแห่งการพิพากษา” หนังเล่าเรื่องราวในปี พ.ศ. 2493 บ้านเมื่อได้รับผลกระทบจากสงคราม ชุมโจรเสือร้าย ยังคงชุกชุมไปทั่วทุกแห่ง ข้าราชการเต็มไปด้วยความฉ้อฉล ใช้อำนาจในทางที่ผิด ก็จะเหลือเพียงแต่ขุนพันธ์
ขุนพันธ์ที่เป็นนายตำรวจมือปราบ ผู้ที่ยึดมั่นในความถูกต้อง จึงถูกเรียกกลับมาปฏิบัติภารกิจล่าตัว 2 เสือร้ายอาคมกล้า ที่กำลังฮึกเหิม และท้าทายอำนาจรัฐ โดยที่ไม่เคยมีใครเข้าถึงตัวของพวกมันได้ นำไปสู่การหวนเหยียบถิ่นเสืออีกครั้งของขุนพันธ์ ท่ามกลางเหล่าเสือร้าย ที่หมายเอาชีวิต และพร้อมพิพากษามือปราบคงกระพันด้วยความตาย
แต่หลังจากสยบโจรใต้อย่าง อัลฮาวียะลู รวมถึง 2 ใน 4 เสือร้ายอย่าง เสือฝ้าย และเสือใบ ทำให้ขุนพันธ์กลับถูกเพ่งเล็งว่าอาจแปรพักตร์หันไปคบกันพวกโจร จึงตัดสินใจวางมือ และกลับไปใช้ชีวิตใหม่ แต่ดันมีเหตุที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ ทำให้ต้องกลับไปทำภารกิจไขปริศนา การหายสาบสูญของ 3 บุคคลสำคัญทางการเมือง
การท้ายทายอำนาจรัฐ ที่ไม่เคยมีใครเข้าถึงตัวได้ การจับตาย 2 เสือชื่อดังอย่าง เสือมเหศวร (มาริโอ้ เมาเร่อ) และเสือดำ (ภาคิน คำวิลัยศักดิ์) ครั้งนี้อาจจะไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ขุนพันธ์จะสามารถบรรลุภารกิจท้าทายศรัทธา และเผชิญหน้าเหล่าเสือร้าย ที่มาทั้งอาคม และความคงกระพันได้หรือไม่ ถึงเวลาแล้วครั้งนี้ กับมือปราบหนังเหนียวอย่างขุนพันธ์ จะกลายเป็นผู้ถูกล่าเสียเอง
มหากาพย์ภาพยนตร์แอ็กชันพีเรียดอาคม
ในภาพยนตร์เรื่อง ขุนพันธ์ 3 เรียกได้ว่าเป็นประสบการณ์ที่คนดูจะต้องจดจำไปทั้งชีวิต สำหรับนักแสดงทุกคน ที่เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในจักรวาลขุนพันธ์ มหากาพย์ภาพยนตร์แอ็กชันพีเรียดอาคม ที่สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชันแนล โดยก้องเกียรติ โขมศิริ ทุ่มเททั้งหยาดเหงื่อ ใช้ทั้งไอเดีย แรงกายแรงใจ
ให้สมกับเป็นภาพยนตร์ไทยระดับบล็อกบัสเตอร์ ทุ่มทุนสร้างสูงสุดในรอบ 10 ปี เรียกได้ว่าจัดเต็มทุกภาคส่วนทั้งนักแสดง ทีมงาน ชนิดที่ว่าขอฝากผลงานบันทึกไว้เป็นหน้าหนึ่งของคนทำหนังกันเลยทีเดียว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบท เสือมเหศวร 1 ใน 4 จอมโจรโรบินฮูดเมืองไทย หัวหน้ากลุ่มแก๊งจอมโจรเชิ้ตขาว ที่พระเอกระดับซูเปอร์สตาร์พันล้านอย่าง มาริโอ้ เมาเร่อ ขอร่วมปล่อยของ และงัดฝีมือไม้ลายมือทางด้านการแสดง และความสามารถทั้งหมด พร้อมแอ็กชันประจัญบานเคียงข้างเหล่านักแดงทุกคน ไม่ว่าจะเป็น อนันดา, โตโน่ และเป้อารักษ์
หนังแอ็กชัน ที่นักแสดงทุ่มเทโดยไม่ใช้นักแสดงแทน
เรื่องนี้เราจะได้เห็นจอมโจรชื่อดัง ผู้มากไปด้วยความสามารถ จอมโจรร้อยหน้า นักปลอมแปลงฝีมือฉกาจ ผู้มาพร้อมกับมนต์เบี่ยงกระสุน เป็นคาถาอาคมประจำตัว และคาถาแคล้วคลาดลิงลม ว่ากันว่ามเหศวรคือเสือที่ไปมาไร้ร่องรอย ไม่เคยมีใครจับได้ เป็นที่เล่าขานกันว่า เสือมเหศวรเหมือนหายตัวได้ คือหัวหน้าของกลุ่มแก๊งโจรเชิ้ตขาวแห่งชุมเสือ และที่สำคัญมีค่าหัวสูงอันดับต้น ๆ ซึ่งเป็นที่หมายหัวของทางการ จนต้องส่งขุนพันธ์มาปราบ
ส่งผลให้พระเอกหนุ่มมาริโอ้ ต้องโชว์ทักษะการขี่ม้า ยิงปืน ปีนป่ายหอคอย แสดงแอ็กชันกลางอากาศ อีกตั้งต้องขึ้นสลิง โดยไม่ใช้ตัวนักแสดงแทน ตะลุยแอ็กชันด้วยตนเองในทุก ๆ คิว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เป็นที่มาของฉากเสี่ยงตาย ที่ทำให้ทั้งกองถ่ายถึงจะกับเสียวสันหลัง เป็นฉากไฮไลท์ไคล์แมกซ์สำคัญ ของภาพยนตร์ขุนพันธ์ 3 ที่มาริโอ้ ต้องโหนตั;ลงจากหอคอย ที่มีความสูงถึง 8 เมตร !!! โดยมีระเบิดลูกใหญ่ ไล่หลังเพียงไม่กี่คืบ ท่ามกลางอุณหภูมิที่ร้อนถึง 42 องศา โดยถ่ายทำที่จังหวัดกาญจนบุรี
งานนี้ทำเอาผู้กำกับ ก้องเกียนติ โขมศิริ ถึงกับใจหายไม่แพ้กัน ก่อนที่จะสั่งคัต และทีมงานทั้งหมด ต้องเข้าไปเช็คความปลอดภัยของหนุ่มมาริโอ้ทันที แหละหลังจากที่ทุกคนได้เห็นภาพจากมอนิเตอร์ ต่างก็พากันโล่งใจ และยกให้เป็นฉากแอ็กชันที่เดือดที่สุดในฉากหนึ่ง ของภาพยนตร์เรื่อง ขุนพันธ์ 3 เลยทีเดียว และต่างก็ชื่นชมในความสามารถ ยกย่องในสปิริตของเจ้าตัวมาริโอ้
ดวนความมันด้วยอาคม 5 เรื่องที่ต้องรู้ก่อนดู ขุนพันธ์ 3
เมื่อหนังเข้าใกล้วันที่ฉายในโรงภาพยนตร์ กับบทสรุปของภาพยนตร์ไตรภาคเรื่องดังอย่าง “ขุนพันธ์” ที่นำแสดงโดย อนันดา พร้อมด้วยพระเอกคนดังที่ผันตัวมาเล่นบทร้ายอย่าง มาริโอ้ ที่เล่าเรื่องราวของขุนพันธ์ที่หันหลังให้กับหน้าที่ และไปมีครอบครัวแล้ว แต่สุดท้ายต้องกลับมาตามล่าจับตายเสือร้ายอีกครั้ง แม้เนื้อเรื่องจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากในภาคแรก ๆ แต่ในภาคนี้เราจะได้เห็นการพัฒนาของสังคม ตัวละคร และความเชื่อในเรื่องต่าง ๆ ที่การเปลี่ยนแปลงไป เรียกได้ว่าเป็นการนับถอยหลังที่เราจะได้เห็นอาณาจักรของอาคม และการท้าทายกฎหมาย กลับมามีชีวิตอีกครั้ง เราดู 5 เรื่องที่ต้องรู้ก่อนดูภาคนี้กัน
- เป็นบทสรุปของหนังไตรภาคนี้
เรื่องขุนพันธ์ 3 จะใช้ชื่อตอนว่าวันพิพากษา เพราะไม่ใช่แค่ตัวละครขุนพันธ์ที่จะทำการพิพากษาเหล่าเสือร้าย ที่ยังคงลอยนวลปล้นสะดมชาวบ้าน แต่ตัวขุนพันธ์เองก็ยังต้องสู้กับความขัดแย้งในใจตัวเอง และเริ่มต้นพิพากษาการกระทำของตัวเขาเองตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ว่าที่เขาทำนั้นมันถูกต้องหรือไม่ ภาคนี้จึงเป็นบทสรุปของตัวละครทุกตัว การกระทำ และความเชื่อทั้งหมด
ซึ่งนักแสดงหลักของเรื่องอย่าอนันดา ก็ได้ออกปากว่าตัวละครนี้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเขา เพราะเขาอยู่กับมันมาเป็นเวลาถึง 10 ปี เขาได้พูดว่า ตัวเขาเองก็อยากเห็นตัวละครขุนพันธ์นี้ ในอีกมิติหนึ่ง อย่างการเล่าย้อนกลับไปในตอนขุนพันธ์ในวัยเด็ก หรือไม่ก็เป็นฮีโร่ใหม่ที่อยู่ในมิติเดียวกัน
- มาริโอ้ เล่นบทผู้ร้ายครั้งแรก จากพระเอกแห่งวงการบันเทิง
ในเรื่องนี้ เราจะยังตอบไม่ได้กับบทร้ายที่เขาเล่น จะแสดงถึงความร้ายกาจมากแค่ไหน แต่ถึงอย่างไรเขาก็ตั้งตัวเป็นศัตรูกับขุนพันธ์อยู่แล้ว เพราะเสือมเหศวรมีการกระทำแบบคนสองบุคลิก ที่ดูไร้พิษสง แต่อีกมุมหนึ่ง เขาก็เป็นจอมวายร้ายของสังคม มาริโอ้ผู้มารับบทนี้เล่าว่า ตัวเขามองคาแรกเตอร์นี้ในมุมมองสีเทา
เพราะการกระทำที่ขุนพันธ์มองว่ามันคือความผิด แต่ตัวเขามองว่านี่คือสิ่งที่เขาทำ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำของสังคม เสือมเหศวรจึงเป็นตัวที่เข้ามาท้าทายความเชื่อของขุนพันธ์ ว่าสิ่งที่เขายึดมั่นในความดี มันเป็นเรื่องที่ถูกต้องหรือไม่ เพราะในโลกความจริง จะมีใครบ้างที่ชั่วร้ายมาก และดีมาก ทุกคนล้วนมีข้อผิดพลาดด้วยกันทั้งสิ้น
- ความจริง ขุนพันธ์ กลัวตายหรือไม่ ?
ในส่วนของเรื่องนี้ ขุนพันธ์นอกจากความขีดแย่ง ที่เกิดขึ้นในตัวเอง ความเชื่อความศรัทธาแล้ว ยังพูดถึงการพัฒนาจิตใจของตัวละครด้วย เป็นครั้งแรกที่อนันดา นักแสดงที่รับบทเป็นขุนพันธ์ ได้ออกปากว่าตัวละครที่เขาเล่นนั้น จะมีความเป็นมนุษย์ที่รักตัวกลัวตายได้เหมือนกัน เพราะทุกสิ่งเกิดขึ้นตามบริบทของตัวละครที่เปลี่ยนไป
เขามีครอบครัวคนรัก และกำลังจะมีลูก เป็นการมีชีวิตอยู่เพื่อคนรัก และครอบครัวของเขา ทำให้ได้เห็นตัวละครที่มีมิติ และเปิดกว้างเรื่องความรู้สึกมากขึ้น ในภาคที่ผ่านมา ขุนพันธ์จะยึดติดกับหน้าที่ และภารกิจ ทำให้ขุนพันธ์กลายเป็นคนที่พิพากษาคนชั่ว และพยายามจะทำให้สังคมกลับมาดีขึ้น
- ในเรื่องนี้ ผู้กำกับชื่นชอบการทำงานของ “โตโน่ ภาคิน” อย่างมาก
ในเรื่องขุนพันธ์ กับอีกหนึ่งตัวละครที่เข้ามาเสริมรสชาติให้กับภาพยนตร์ได้สนุกมากขึ้น คือเสือดำ ที่รับบทโดย “โตโน่ ภาคิน” ตัวละครด้านร้าย ที่เกลียดพวกตำรวจอย่างมาก ผู้กำกับอย่าง โขม ถึงกับออกปากมาว่าชอบการทำงานของโตโน่ เพราะเขาเตรียมข้อมูลมาดี เตรียมตัวในความพร้อมสำหรับบทบาทในเรื่องนี้ โดยตัวละครของเสือดำจะดูดฝิ่นจนฟันดำ และมีฟันทอง 2 ซี่ มันเลยกลายเป็นพัฒนาการของตัวละคร เพื่อให้เห็นจุดเด่นของเสือดำ
- การถ่ายทำที่จัดเต็ม ถ่ายวันที่ร้อนที่สุดในประเทศไทย
ในทุก ๆ ภาคของเรื่องขุนพันธ์ โปรดักชันจะมีพัฒนาการให้ผู้ชมได้เห็นตลอดตามเนื้อเรื่อง ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากภาคแรก ในภาคแรกของเรื่อง จะเป็นเรื่องราวช่วงก่อนสมัยสงครามโลก ในเรื่องจึงมีแต่การใช้ม้าเป็นพาหนะ ในขณะที่ภาค 2 จะเป็นช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ในยุคนั้นจะมีขับมอเตอร์ไซต์ ใช้ปืนเป็นอาวุธ ทำให้ดูทันสมัยมากขึ้น
ที่สำคัญคือมีเรื่องของการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยอ้างอิงจากการแต่งตัว ที่อิงนโยบายของ นายจอมพล ป. พิบูลสงคราม ในขณะนั้น มาถึงภาคล่าสุด โลกของขุนพันธ์ก้าวเข้าสู่ยุคสงครามเย็น เป็นช่วงสงครามสายลับ การแต่งตัวก็จะแตกต่างจากภาคก่อน ๆ รวมไปถึงมู้ดของตัวภาพยนตร์ที่จะเอียงไปทางสายลับมากกว่า และเอฟเฟกต์ที่ใช้ในการถ่ายทำ ก็จัดหนักจัดเต็มมากกว่าเดิม เพื่อพัฒนาให้หนังดูสมจริงมากขึ้น
หากใครได้ติดตามของภาพยนตร์เรื่องขุนพันธ์มาแล้ว ในภาค 1 และภาค 2 ต้องรอติดตามกันในขุนพันธ์ภาค 3 เลย จะสนุก หรือมีความดุเดือดมาก จากภาคเก่าหรือไม่ อีกไม่นานเกินรอคอย คุณจะได้พบกับความบ้าระห่ำ การดวนการต่อสู้ ซึ่งใช้วิธีต่าง ๆ ขุนพันธ์จะปราบเหล่าโจรร้ายได้หรือไม่ และเข้าจะได้กลับไปอยู่กับครอบครัวที่เขารักไหม มีนาคมนี้ ได้รู้กัน
สรุป
ภาพยนตร์แฟรนไชส์สุดดุเดือด กับนักแสดงชั้นนำ พบกับ “อนันดา เอเวอร์ริงแฮม” กลับมารับบทเป็น ขุนพันธ์อีกครั้ง สมทบด้วยตัวละครใหม่อย่าง “มาริโอ้ เมาเร่อ” และ “โตโน่ ภาคิน” ในบทเสือมเหศวร กับเสือดำ และยังมี “ฟ้า ษริกา” กับ “เอม ภูมิภัทร” นักแสดงรุ่นใหม่ยอดฝีมือมากความสามารถ มาร่วมแสดงหนังในภาคนี้ เตรียมพบกับการเชือดเฉือนอย่างดุเดือด ระหว่างอาคม กับศรัทธา ในขุนพันธ์ 3 เข้าโรงภาพยนตร์วันที่ วันที่ 2 มีนาคม 2566 นี้ จองตั๋วล่วงหน้าไว้เลย ความมันกำลังรออยู่
