ข่าวดีมาแล้ว Detective Pikachu 2 ภาคต่อหนัง Pokémon ขวัญใจใครหลาย ๆ คนที่กำลังแอบสิ้นหวังว่าจะเห็นภาคต่อหรือไม่ งานนี้บอกเลยว่ายิ้มออกแน่นอน
สารบัญ
Detective Pikachu 2 ภาคต่อหนัง Pokémon
ข่าวดีมาถึงแล้ว สำหรับแฟน ๆ ปิกาจู และโปเกมอน ละทิ้งความท้อแท้ไปได้เลย เพราะล่าสุดได้มีข่าวดีที่พอจะทำให้ใจฟูขึ้นมาได้ขึ้นเยอะ กับโปรเจกต์หนังภาคต่อ ระดับฮอลิวูดของ ภาพยนตร์แนวผจญภัยไลฟ์แอคชั่น สุดน่ารักนามว่า “Pokémon : Detective Pikachu” ที่ทางผู้สร้างออกมายืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่า ภาคใหม่ของหนังเรื่องนี้ ได้รับการอนุมัติแล้วว่าได้ไปต่อ และขณะนี้ทีมสร้างก็กำลังแอบซุ่มพัฒนาสร้างกันอยู่แบบเงียบ ๆ แม้ว่าจะทิ้งช่วงมาหลายปีแล้วก็ตาม แต่โปรเจกต์นี้ก็ไม่ได้ถูกทิ้งไปไหน
Polygon ได้เปิดเผยรายละเอียด เกี่ยวกับข่าวนี้ว่า Legendary Entertainment ได้ออกมาชี้แจง และเปิดเผยเกี่ยวกับความเป็นไปได้ ของภาพยนตร์ที่ถูกดัดแปลงมาจากการ์ตูนชื่อดัง ระดับโลกภาคต่อของ Pokémon : Detective Pikachu ที่เคยออกฉายสู่สายตาชาวโลกไปเมื่อราว ๆ ปี 2019
โดยเนื้อหาได้มีการคอนเฟิร์มว่า โครงการภาคใหม่ที่จะเกิดขึ้นนี้ ยังคงอยู่ระหว่างการพัฒนาสร้างกันอยู่ พร้อมกับให้ความหวัง ความมั่นใจแก่แฟน ๆ ในการรอคอย Detective Pikachu และเฝ้าติดตามดูกันได้ในอนาคตอันใกล้นี้
Pokémon : Detective Pikachu ในภาคนี้ ถือว่าเป็นหนังโปเกมอน ในแบบฉบับของไลฟ์แอคชั่นเรื่องแรก ที่มีการถ่ายทอดออกมา โดยสตูดิโอขนาดใหญ่ ของวงการภาพยนตร์ฮอลลิวูด Detective Pikachu กลายเป็นหนังที่ถูกสร้างขึ้นมา เพื่อลบอาถรรพ์หนังจากวิดีโอเกมได้อยู่ไม่น้อย แตกต่างจากหลาย ๆ เรื่อง
เกี่ยวกับการกวาดรายได้จากในภาคแรกรวมทั่วโลก ได้มากกว่า 430 ล้านเหรียญ ที่เป็นการผนึกกำลัง ระหว่างโปเกมอนเทรนเนอร์ที่หลาย ๆ คนคุ้นเคย และเจ้าปิกาจูสายลืบ ที่ได้ “จัสติช สมิธ” แสดงนำในภาพยนตร์ ร่วมกับเสียงพากย์ของ “ไรอัน เรย์โนลด์ส”
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าต้นสังกัดผู้สร้างหนัง Detective Pikachu จะยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดใด ๆ เกี่ยวกับภาคต่อ เนื้อหา หรือแม้แต่เหตุการณ์ใน Detective Pikachu ออกมาในตอนนี้ แต่ก็ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็จัดได้ว่า เป็นการสานต่อความหวังของแฟน ๆ ที่จะยังมีโอกาส ได้เห็นเจ้าตัวโปเกมอนสุดน่ารัก อย่างพิคาชูออกมาโลดแล่นบนจอใหญ่อีกครั้ง
ย้อนรอย “Pokémon : Detective Pikachu” ในภาคแรก
เรื่องราวเหตุการณ์เริ่มขึ้น จากการที่ยอดนักสืบ แฮร์รี่ กู้ดแมน หายตัวไป อย่างลึกลับเรื่องราวนี้ส่งผลให้ ทิม ลูกชายวัย 21 ปีของเขา ต้องหาคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้น แฮร์รี่ กู้ดแมน หายไปไหน สาเหตุใด โดยมีผู้ช่วยการสืบสวนครั้งนี้คือ นักสืบพิคาชู (ตัวละครโปรดของใครหลาย ๆ คน) อดีตคู่หูนักสืบของ แฮร์รี่ นักสืบที่มีทั้งความความตลก และน่ารักอยู่ในตัว
แถมยังแอบมีความสับสนเล็ก ๆ ซ่อนอยู่ในตัวเองอยู่ด้วย จะได้เห็นการทำงานอย่างเข้าขากัน ระหว่างพวกเขาทั้ง 2 เพราะในตอนนี้ทิมจัดได้ว่า เป็นมนุษย์เพียงคนเดียว ที่พูดคุยกับพิคาชูได้ พวกเขาต้องร่วมมือกันไขปริศนา ที่แสนสับสน สืบเซาะ ตามหาเบาะแสไปด้วยกันบนท้องถนน ไรม์ ซิตี้ (Ryme City) เมืองใหญ่ที่เต็มไปผู้คน ความเจริญแบบสุดขีด ที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย และทันสมัย มนุษย์ และเจ้าคู่หูโปเกมอน จะต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน
ในโลกของไลฟ์แอคชั่นที่มีความสมจริง ระหว่างการทำคดี ตามหาความจริง พวกเขาจะได้พบกับตัวละครโปเกมอนต่าง ๆ นานาชนิด ได้พบกับเรื่องราวน่าตกใจมากมาย ที่ทำลายความสงบของการอยู่ร่วมกัน รวมถึงเป็นภัยคุกคาม โลกทั้งใบของโปเกมอนอีกด้วย
หนัง Detective Pikachu มีไอเดียมาจากเกมโปเกมอน ในเครื่อง Nintendo ที่หลาย ๆ คนนิยมเล่น ซึ่งหนังปูปมให้คนดู สงสัยว่าทำไมทิมถึงไม่มีโปเกมอน เป็นคู่หูของตัวเองแบบเป็นตัวเป็นตน ซึ่งต้องบอกก่อนว่าในเรื่องมนุษย์ กับโปเกมอนใช้ชีวิตร่วมกัน จัดได้ว่าเป็นเรื่องปกติ และในทางตรงกันข้าม คือเป็นเรื่องแปลก หากไม่มีโปเกมอนมาเป็นคู่หู แล้วหนัง Detective Pikachu พยายามสร้างปมให้กับทิมตัวเอกของเรื่อง เขียนบททำให้พ่อทิ้งเขาไป และมีเวลาให้กับโปเกมอนมากกว่า
สังเกตได้จากช่วงแรก ที่ตัวละครของทิมนั้นไม่ค่อยจริงจัง หรือสนใจการจับโปเกมอนแบบคนอื่น ๆ เท่าไหร่นัก ส่วนที่ต้องขอชมเชย คือความน่ารักของเจ้าพิคาชู ที่นอกจากจะพูดแต่คำว่า ปีก้า ปีก้า กลับพูดภาษาคนได้ กลายเป็นเรื่องเซอร์ไพร์ (คือมีแค่ทิมที่ฟังออก) หนังเลยเพิ่มเสน่ห์ขึ้นอย่างมากเลย ในมุมของผู้ได้รับชม
กระแส Detective Pikachu ในภาคแรก
หนัง Detective Pikachu เน้นที่ปมของทิมตัวละครหลัก ในเรื่องพอสมควรแต่ก็มีพิคาชูเข้ามา เพื่อที่จะเติมเต็มความอบอุ่น ที่ขาดหายไปให้กับตัวละครดังกล่าว เพราะที่ผ่านมา พ่อไม่เคยมีเวลาให้ เลยทำให้ทิมโหยหาเวลา ที่จะมีพ่ออยู่ข้าง ๆ คอยดูแลนั่นเอง แต่สิ่งที่น่าสนใจมากกว่าปมของทิม คือเหล่าบรรดาโปเกมอนที่น่ารักหลาย ๆ ตัวเลย
หนังเรื่องนี้ใช้ CG แต่ละจุดได้อย่างแนบเนียน และถือได้ว่าไหลลื่นมาก ตั้งแต่ตัวโปเกมอนในเรื่อง และมนุษย์ในแต่ละฉาก ต่างดูกลมกลืนกันจนน่าประหลาดใจ หนัง Detective Pikachu เน้นความน่ารักของโปเกม่อนหนักมาก คือบอกเลยว่าใครที่รอชมโปเกมอนนั้นฟินสุด ๆ แต่เรื่องนี้บอกไว้ก่อนว่า มีมุมน่ารัก ก็ย่อมมีมุมร้ายกาจเช่นกัน เพราะในเรื่องมันจะมีสารลึกลับชนิดหนึ่ง ที่ทำให้โปเกม่อนที่สูดดมเข้าไป จะมีอารมณ์ฉุนเฉียว และดุร้ายชั่วขณะ พอบอกแบบนี้ก็แอบคล้ายตัวยาชนิดหนึ่ง บนโลกความเป็นจริงของมนุษย์เหมือนกันนะเนี่ย
หนัง Detective Pikachu มีการวางตัวละคร และบทบาทของตัวละครมาค่อนข้างลงตัว ในหลาย ๆ ฉากของ Detective Pikachu จะมีความน่ารักกุ๊กกิ๊ก ของคู่พระนางให้เห็นบ้างเป็นระยะ แต่ด้วยความที่หนังเรื่องนี้ เส้นเรื่องหลักคือเน้นการสืบสวนสอบสวน คู่พระนางใน Detective Pikachu ก็เลยต้องช่วยกันสืบซะส่วนมาก
ทางด้านเนื้อหาโชคดีที่รวม ๆ แล้วไม่มีความซับซ้อน และชวนมึนงงมากนัก ผู้ชมจะพอรับชมได้แบบไม่ติดใจ หรือทิ้งข้อสงสัยเล็ก ๆ น้อย ๆ เอาไว้ภายหลัง ตัวละครจะตามสืบจนเจอปมต่าง ๆ ไปตามสูตรดำเนินเรื่องไปเรื่อย ๆ อาจจะมีบางส่วนที่ไม่สามารถเดาได้บ้าง เป็นเสน่ห์ของหนังแนวนี้ แต่ไม่ปวดหัวเกินไปอย่างแน่นอน
ถ้าผู้ที่ไม่ได้เติบโตมาพร้อมกับโปเกมอน ก็อาจจะมองว่า Detective Pikachu เป็นหนังการ์ตูนธรรมดา ๆ เรื่องหนึ่ง หรือไม่ก็มองว่าเป็นหนังที่สร้างขึ้นมา เพื่อเอาใจกลุ่มผู้ชมแบบเด็ก ๆ ไปเลย หนังเหมาะสม และคงถูกใจกับแฟนคลับโปเกมอน Detective Pikachu นี้ก็ทำมาเอาใจคนที่เป็นแฟนคลับเกม และการ์ตูนโปเกมอนนั่นเอง แต่รวม ๆ แล้วหนังเรื่องนี้ดูเพื่อเป็นการคลายเครียด หรือเบาสมองได้เลยนะ เหมาะกับคนทุกกลุ่ม ไม่มีติดเรท หรือความรุนแรงภายในเนื้อเรื่อง ที่ล่อไปในทางที่ไม่เหมาะสำหรับเยาวชนแน่นอน
📽 สืบสวนแบบไม่ซับซ้อน เน้นเบาสมอง รับชมได้ทุกวัย
คะแนนเนื้อเรื่อง : 🌕🌕🌕🌑🌑
หนัง Detective Pikachu ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ ในเรื่องของเนื้อหา และการดำเนินเรื่องสักเท่าไหร่ สรุปสั้น ๆ ได้เลยคือพ่อของตัวละครหลักหายไป ก็มาตามสืบหาโดยไปเจอความลับบางอย่าง ที่เป็นตัวการ ในการทำลายความสงบสุขระหว่างคน และโปเกมอน มีปมให้เดาบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ พอเป็นพิธีแต่ก็ไม่ได้เยอะมาก ซึ่งในส่วนนี้ถือว่าดีนะสำหรับคนที่ไม่อยากมานั่งจับผิด อยากรับชมแบบเบาสมอง เน้นผ่อนคลาย Detective Pikachu ถือว่าตอบโจทย์ แต่ถ้าใครมองหาหนังแนวสืบสวนสอบสวนแบบ ลึกลับ หักมุม สลับซับซ้อนเรื่อง Detective Pikachu อาจจะยังไม่ถึงสเกลนั้น
📽 CG ไม่ทำให้แฟนคลับโปเกมอนผิดหวัง มองแล้วใจฟู
คะแนนเอฟเฟคต์ : 🌕🌕🌕🌕🌕
ด้วยไอเดียที่เอาตัวการ์ตูนโปเกมอน มาใช้ชีวิตร่วมกับมนุษย์ การทำ CG เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง การออกแบบให้แนบเนียน และเหมือนใช้ชีวิตกับโปเกมอนจริง ๆ ถือเป็นโจทย์ที่ทีมสร้าง จะต้องควบคุมดูแลอย่างจริงจัง สิ่งเหล่านี้คือหัวใจสำคัญ เพราะถ้าทำออกมาไม่ดีหนัง Detective Pikachu จะไม่มีอะไรดึงดูดเลย แถมจะยิ่งเป็นการสร้างความผิดหวัง ให้กับบรรดาแฟน ๆ โปเกมอนอีกด้วยรับรองเลยว่า ถ้าส่วนนี้ไม่ดีจริงมีหวังโดนวิจารณ์จนไม่ได้เกิดอย่างแน่นอน แต่ทีมงาน Detective Pikachu ก็ไม่พลาดกับจุดนี้เลยอันนี้ต้องขอปรบมือให้ แถมใส่ใจรายละเอียด ทุกกระเบียดนิ้วเลยด้วยซ้ำ ทำให้งาน CG ออกมามีความสวยงาม มองแล้วใจฟูใช้ได้เลย
อย่างที่บอกไปในตอนแรก Detective Pikachu เล่าถึงความพยายามตามหาพ่อของทิมตัวละครเอก เพราะการตายของพ่อเขา เมื่อพิจารณาดี ๆ มันก็ดูประหลาดจริง ๆ อย่างที่เจ้าพิคาชูบอก ทำให้ทิมจำใจต้องร่วมมือกับพิคาชู ซึ่งเป็นคู่หูเก่าของพ่อเขาที่พบกันโดยบังเอิญ เพื่อตามสืบหาความจริง จนนำไปสู่หนทางในการยับยั้งแผนร้าย ในการทำลายความสงบสุขในเมือง ไรม์ ซิตี้
ความน่ารักของพิคาชูที่จะได้เห็นใน Detective Pikachu ถ้าใครเป็นแฟนคลับพิคาชูกันบ้างอยู่แล้ว บอกได้เลยว่านี่คือภาพยนตร์ ที่จะทำให้คุณหัวใจฟู มองแล้วละลายเพราะความน่ารัก ของเจ้าโปเกมอนตัวนี้ได้อย่างแน่นอน เพราะนอกจากจะมีเสียงร้องปีก้า ๆ อันแสนเป็นเอกลักษณ์แล้ว ที่ทำให้เราคิดถึงแล้ว ก็ยังสามารถพูด (มีแค่ทิมที่ได้ยิน) และสื่อสารได้ด้วย
สำหรับแฟนคลับโปเกมอน ที่รักในการชมโปเกมอน บอกได้เลยว่าไม่ควรพลาด Detective Pikachu อย่างยิ่ง เพราะหนังกำลังเอาการ์ตูนอนิเมะ รวมถึงวิดีโอเกมที่อยู่ในจินตนาการ มาทำเป็นหนังฟอร์มยักษ์ และทำให้แฟน ๆ หลายคนเผลอรู้สึกอาจจะได้มีพิคาชูเป็นคู่หูจริง ๆ
โดยรวมแล้ว Detective Pikachu เป็นหนังที่ทั้งสนุก และเน้นฮามากกว่าการจะเพิ่มความตึงเครียด โปเกมอนก็น่ารัก เนื้อเรื่องในแต่ละฉากก็ดูง่าย ดูได้ทุกเพศทุกวัย ไม่มีพิษภัยต่อเด็กเลย และแถมมีงานภาพที่อลังการจนน่าตื่นเต้น Detective Pikachu เป็นหนังที่ดีที่น่าดูอีกเรื่องเลยก็ว่าได้
วีดีโอเกมภาค Spin off สู่ภาพยนตร์ Live Action
ภาพยนตร์ Pokemon Detective Pikachu – โปเกมอน ยอดนักสืบพิคาชู นั้นสร้างมาจากวิดีโอเกม Spin off ตามที่หลาย ๆ ท่านทราบ เพราะฉะนั้นเมืองรวมถึงวิถีชีวิตของตัวละครจะถูกอิงไปในทิศทางของเกมมากกว่าอนิเมะ แต่ก็นับว่าเป็นความโชคดี เพราะแฟน ๆ ของโปเกมอนก็ไม่ได้ติดใจ หรือมีปัญหาอะไรกับการเลือกเส้นเรื่องที่อิงไปทางเกมมากกว่าอนิเมะ
แม้ว่าหลัก ๆ แล้วผู้คนจะรู้จักโปเกมอนจากอนิเมะมากกว่าก็ตามแต่ Detective Pikachu ได้ถ่ายทอดความแฟนตาซีทุก ๆ อย่างที่โลกของโปเกม่อน ควรจะมีออกมาได้น่าตื่นตาตื่นใจ มีอะไรใหม่ ๆ มีเมืองที่แปลกไปจากความเป็นจริง และการที่ได้กระแสเกม Pokemon Go! เกมฮิตบนมือถือในช่วงเวลานั้น ที่สร้างปรากฏการณ์ให้คนทั่วโลก ตามจับมือถือเดินออกจากบ้าน ไปตามล่าโปเกมอนจนเกิดเป็นกระแส ก็ทำให้บุคคลทั่วไปที่ไม่ใช่แฟน ๆ ของโปเกมอนได้มีจังหวะเปิดใจ ใกล้ชิดกับเหล่าโปเกมอน และเข้าถึงความน่ารักของโปเกมอนเหล่านี้ได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องสนใจ เนื้อเรื่องในเวอร์ชันอนิเมะ หรือเกมในภาคหลัก
ด้านคาแรกเตอร์ เหล่าโปเกมอนที่ปรากฏในเรื่อง แต่ละตัวก็มีความน่ารักสมบูรณ์แบบ จนเรียกได้ว่าถูกถอดแบบ ออกมาจากเวอร์ชันเกมแบบตรงเป๊ะ ๆ ไม่มีผิดเพี๊ยนไป ใครที่เคยเล่นเกมจะต้องคุ้นเคย ลักษณะนิสัยของเจ้าโปเกมอนกันมาบ้างพอสมควรอย่างแน่นอน Detective Pikachu ทำให้ผิวหนังของโปเกมอนออกมาเป็น เกล็ดเป็นเกล็ด ขนเป็นขนฟู ๆ ปลิวไปกับลมหรือแม้แต่ตอนที่เปียกน้ำ ออกมาได้สมจริงมาก ๆ
แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นโปเกมอนแต่ละตัว ก็ยังคงไว้ซึ่งความน่ารัก และเสน่ห์ของโปเกมอนตัวนั้น ๆไว้ได้อย่างครบถ้วน พลังต่าง ๆ จัดมาครบถ้วน บางฉากเราก็จะได้เห็นวิวัฒนาการด้วย ซึ่งก็จัดได้ว่าครบรส ส่วนพิคาชูที่พากย์เสียงโดย ไรอัน เรย์โนลส์ ก็ออกมายียวยแบบไร้เดียงสา แต่ก็มีมุมที่น่ารักก็ช่วยเพิ่มเสน่ห์ ในพิคาชูในเรื่องนี้มาก ๆ
Detective Pikachu ในภาคแรก จากผลงานการกำกับของ ร็อบ เล็ตเตอร์แมน (Goosebumps, Monster Vs. Aliens) ร่วมกับทีมผู้สร้างมากฝีมือแห่งวงการ อาทิ จอห์น แมทธีสัน (The Phantom of the Opera, Gladiator), ไนเจล เฟลฟส์ (Pirates of the Caribbean: Dead Men Tell No Lies) และมาร์ค แซนเกอร์ (Gravity) ภาพยนตร์ Detective Pikachu นำแสดงโดย ไรอัน เรย์โนลด์ส (Deadpool) ผู้รับบท และทำการพาร์กเสียงเป็น “พิคาชู”, จัสติซ สมิธ (Jurassic World : Fallen Kingdom) ผู้รับบท “ทิม”, แคธริน นิวตัน (Lady Bird) ผู้รับบทนักข่าวสาวมากความสามารถ “ลูซี่” และเคน วาตาบาเบ้ (Godzilla) ผู้รับบท “โยชิดะ”
เกมโปเกมอนยอดนักสืบต้นแบบ “Detective Pikachu 2”
จากการ์ตูนชื่อดังระดับโลก สู่วงการเกมในเนื้อเรื่องใหม่ ที่แฟน ๆ การ์ตูนหลายคนรอคอย เกมที่สร้างโดยนินเทนโด เมื่อราว ๆ ปี 2016 ปล่อยตัวอย่างเกม Detective Pikachu ออกมาให้ชมกันรัว ๆ ในเวลานั้นซึ่งก็เป็นจังเดียวกับการ รับกระแสภาพยนตร์เรื่อง Detective Pikachu หรือโปเกมอนยอดนักสืบในภาคแรกนั่นเอง โดยภาพยนตร์เรื่อง “Pokémon : Detective Pikachu” สร้างมาจากเกมเวอร์ชันญี่ปุ่น และที่ออกฉาย ในเวอร์ชันภาษาอังกฤษในปีนั้น ๆ
โดยทางฝั่งของนินเทนโด ได้เปิดเผยรูปแบบการเล่นในเกม Detective Pikachu โดยให้เกมนี้เป็นเกมแนวนักสืบ ที่ตัวเอกจะต้องออกสืบสวน ตามหาเบาะแสต่าง ๆ ร่วมกับ “ปิกาจู” ซึ่งก็ดันเป็นปิกาจูที่สามารถพูดได้ ผ่านเกมเพลย์ที่ผู้เล่นจะต้องเลือกเล่น ต้องสำรวจตามสถานที่หรือจุดต่าง ๆ เพื่อค้นหาเบาะแส ที่ซ่อนอยู่ในฉากต่าง ๆ
จุดพิเศษของเกม Detective Pikachu ภาคนี้คือ “การใส่เสียงพูดของปิกาจู” ถูกต้องการพูดได้ของเจ้าปิกาจูนี่แหละ ที่น่าสนใจภาคนี้ปิกาจูพูดได้ สื่อสารกับคนได้ด้วยซึ่งในส่วนนี้ก็แอบคล้ายกับบทในภาพยนตร์เล็กน้อย และจะมีบุคลิกแบบเพลย์บอย แถมยังชอบดื่มกาแฟ ตามที่เราได้เห็นในภาพยนตร์อีกด้วยว่าปิกาจูนั้นมีการชักชวนทิมไปดื่มกาแฟ ในเกม Detective Pikachu หว่านเสน่ห์ใส่สาว ๆ ในเรื่องไปทั่วเมืองโปรยแบบเต็มที่ จนเรียกว่าได้ว่าเป็นนักสืบ Hard Boiled ตัวพ่อของวงการอีกคนเลย ซึ่งผิดจากลุคใส ๆ น่ารัก ๆ ของปิกาจูที่เราคุ้นเคยกันแบบผิดหูผิดตา แต่ถึงจะเป็นเช่นนี้แต่ดูเหมือนว่าแฟน ๆ ของโปเกมอนก็ไม่ได้มีปัญหา บุคลิกที่ถ่ายทอดออกมายังคงทำให้พวกเขาพึงพอใจ และมองว่าปิกาจูดูมีสีสันมากขึ้นในเกมนี้
โปเกมอนชื่อดังที่สุด “ปิกาจู” พูดไปไม่มีใครไม่รู้จัก กับสุดยอดมาสคอตระดับโลก ภาพจำคือเจ้าตัวเหลืองหูยาวน่ารักน่าชัง และสร้างรอยยิ้มให้กับผู้พบเห็น ทำหน้าที่เติมเต็มความสุขมานานนับสิบปี บางคนรู้จักปิกาจู และกลุ่มโปเกมอนมาตั้งแต่เด็ก ๆ จนตอนนี้ก็ถึงวัยทำงานสร้างครอบครัวกันแล้ว เกมดังกล่าวเป็นแรงบันดาลใจ ในการนำเอา Detective Pikachu มาสร้างเป็นภาพยนตร์ โดยบทจะสื่อไปในเชิงที่ว่า จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าปิกาจูตัวนี้ “เป็นนักสืบ” และยังเป็นนักสืบที่ช่างจ้อเสียด้วย
นี่คือเรื่องราว Spin Off ของปิกาจู แม้ในภาพยนตร์ทิมจะเป็นพระเอก แต่สำหรับในเวอร์ชันเกม ปิกาจูมารับบทพระเอกแบบเต็ม ๆ กับเกม Great Detective Pikachu แค่มองภาพเกมก็รู้แล้วว่าแสบขนาดไหน สำหรับในเกมนี้ ผู้เล่นมีหน้าที่ช่วยปิกาจูตามสืบคดีต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเมือง และได้รับมาในแต่ละวัน โดยจะมีการกำหนดวันขอบเขตระยะเวลา ของการปิดคดี
ผู้เล่นต้องทำการรวบรวมหลักฐาน จากแต่ละจุดที่ได้รับมา และพยานวัตถุต้องสงสัยต่าง ๆ ในการเชื่อมโยงไปถึงเบาะแสจากผู้คนในเมือง ถ้าการสันนิษฐานถูกต้อง ปิกาจูจะบอกใบ้อะไรบางอย่าง เพื่อเป็นสัญญาณว่าเรามาถูกทาง ให้คดีเดินหน้าต่อไปได้ ด้วยความที่ Detective Pikachu เป็นเกมแนวสืบสวนสอบสวน เพราะฉะนั้นหลักฐานเพียงนิดเดียว ก็อาจจะเป็นเบาะแส ที่ยิ่งใหญ่ได้แบบคาดไม่ถึง ขณะเล่นเกมนี้จงจำไว้ว่า นักสืบที่ดีต้องไม่มองข้ามเรื่องเล็กน้อย ตัวเกม Detective Pikachu มีการใช้ Quick Time Event ซึ่งก็จะมีผลต่อการไขคดีด้วยเช่นกัน
สำหรับ Great Detective Pikachu เกมแนวสืบสวนสอบสวน ที่ผลิตโดย The Pokemon Company ตัวเกมที่ทำออกมา นอกจากจะเล่นได้แล้ว ผู้เล่นยังสามารถรับชมได้ ราวกับว่ากำลังได้ดูละครซีรีส์ โดยในช่วงเวลานั้น ทางทีมพัฒนาเกมระบุว่า ตัวเกมจะใช้รูปแบบของการเล่น ไปพร้อม ๆ กับชมภาพยนตร์ในเวลาเดียวกัน (cinematic adventure)
จุดสำคัญของเกม Great Detective Pikachu อีกประการหนึ่ง คือการสืบข่าว ปิกาจูตัวเดียวอาจจะยังไม่สามารถ ขับเคลื่อนเนื้อเรื่องได้อย่างสมบูรณ์แบบ ดังนั้นตัวเกมจึงใส่ตัวละครคู่หู มาเป็นการเพิ่มสีสันในกับตัวเกม ที่จะคอยติดตามการสืบคดี รวมไปถึงคอยช่วยเหลือเจ้าปิกาจูด้วย โดยตัวละครลับตัวนี้นั่นก็คือ “ผู้เล่น” นั่นเอง
โดยตัวผู้เล่นจะได้รับบท “จิม” เด็กหนุ่มอายุน้อยที่อาศัยอยู่ในเมือง Rhyme City ที่มนุษย์ และตัวโปเกมอนสามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้ (ในส่วนนี้จะคล้ายกับในภาพยนตร์พอสมควร) ซึ่งเรื่องราวคดีปริศนา ในเมือง Rhyme City นี้ จะเป็นฝีมือโปเกมอน หรือจะเป็นคนร้ายนั้น อันนี้จะเป็นหน้าที่ของผู้เล่น ที่จะต้องหาคำตอบ ไขปริศนากันเอาเอง
