อนาคต จักรวาลดีซี DC Studio

DC Cinematic Universe ในยุคของ “เจมส์ กันน์”

จุดเปลี่ยนสำคัญมาถึงแล้ว DC Cinematic Universe ในยุค เจมส์ กันน์ การปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ท่ามกลางแฟน ๆ ภาพยนตร์ทั่วโลก จะเป็นอย่างไร?

สารบัญ

DC Cinematic Universe ในยุค เจมส์ กันน์ จะเป็นอย่างไร? ความท้าทาย ที่น่าติดตาม

ค่ายหนัง DC ค่ายชื่อดังที่เป็นผู้สร้างหนังซูเปอร์ฮีโร่ สายดาร์กขวัญใจกลุ่มผู้ชม ที่ชอบเนื้อเรื่องแบบเข้มข้น โทนสีแบบดุดันไม่ติดตลก จริงจังสุดขีด ค่ายภาพยนตร์ในดวงใจ ของผู้คนทั่วโลกมานานกว่า 80 ปี (นับตั้งแต่จัดพิมพ์หนังสือการ์ตูน)

โดยเป็นประเด็นร้อนแรงตั้งแต่ปี 65 ที่ผ่านมาความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เรื่องราว ๆ เดือนตุลาคม เจมส์ กันน์ กลายเป็นผู้นำคนใหม่ของ DC Studios อดีตผู้กำกับที่ครั้งหนึ่ง (เคย) มาแรง จะสามารถพลิกฟื้น DC Studios ได้จริงหรือไม่

หลังจากที่มีการพูดคุยกัน กับผู้กำกับคนสนิทอย่าง เจมส์ กันน์ ที่กำลังดูแลจักรวาลภาพยนตร์ DC Studios ของทาง Warner Bros. อัปเดตล่าสุดก็เป็นที่ยืนยัน แน่นอนแล้วว่า เดฟ บอทิสตา จะไม่ได้มารับบทเป็นวายร้าย “เบน” จากหนังสือการ์ตูนของ DC Studios แม้ว่าจะมีการพูดคุยกัน มามากกว่า 10 ปีแล้วก็ตาม และตัวของ เดฟ บอทิสตาเองก็อยากที่รับบทนี้มากก็ตาม

แน่นอนว่าเรื่องของการปรับเปลี่ยนจักรวาล DC เป็นประเด็นที่กลุ่มแฟน ๆ ภาพยนตร์ทั่วโลกต่างออกมาวิจารณ์กันแบบต่อเนื่อง เพราะเดฟ บอทิสตา ไม่ใช่คนแรกที่ชวดบทไป ก่อนหน้าที่นักแสดงหลาย ๆ คนที่ตอบรับการรับบทนำกับทาง DC Studios เองก็ต่างชวดบทที่ตัวเองรักกันไปหลายต่อหลายราย

Henry Cavill ผู้รับบท Superman ใน Man of Steel ตั้งแต่ปี 2013 และ Batman v Superman : Dawn of Justice (2016) รวมถึงหนังโปรเจคใหญ่ การรวมตัวของซูเปอร์ฮีโร่ฝั่ง DC อย่าง Justice League (2017) ก็ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่า เขาจะไม่ได้รับบท Superman ในภาพยนตร์ภาคใหม่ของ Superman ของ Warner Bros อีกต่อไป ทันทีข่าวนี้ปรากฏสร้างความไม่พอต่อกลุ่มแฟนภาพยนตร์อย่างยิ่ง หลายคนมองว่า Henry Cavill นั้นเหมาะสมมากอยู่แล้ว และตัวนักแสดงเองก็พึ่งจะตัดสินใจไปต่อกับทางค่าย เหตุใด เจมส์ กันน์ จึงตัดสินใจเช่นนี้ทาง DC Studios ได้ระบุเพิ่มเติมว่า แฟนๆ จะได้เห็นนักแสดงคนใหม่ ที่จะมารับบท Superman แทน และจะได้เห็น Henry Cavill ในบท Superman ครั้งสุดท้ายในภาพยนตร์เรื่อง Black Adam ที่เพิ่งเข้าฉายไปในปี 2022 ที่ผ่านมา

ก่อนหน้านี้ Henry Cavill เจ้าของบทบาทที่โด่งดังนาม Superman เคยโพสต์ลงโซเชียลมีเดียของตนเองว่า เขาจะกลับไปรับบท Superman อีกครั้งอย่างแน่นอน ในภาพยนตร์เรื่องใหม่ของ Warner Bros แต่ไม่นานหลังจากการมาของ James Gunn และ Peter Safran มารับตำแหน่งใหม่อย่างเต็มตัว

ในนามของ ประธานร่วม (co-chair) และประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม (co-CEO) ของ DC Studio ทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไปทันที ทำให้ Henry ได้รับแจ้งใหม่ว่า มีการปรับเปลี่ยนทิศทางในการนำเสนอ หนังเรื่องใหม่ที่เคยสร้างไว้ รวมถึงโปรเจคต่าง ๆ ซึ่งนั่นทำให้เขาถูกถอดจากบท Superman

DC Cinematic Universe Henry Cavill บท Superman

ข่าวคราวของ Henry Cavill โด่งดังเป็นที่วิจารณ์ของแฟน ๆ DC Studio ไปทั่วโลก หลายคนจับตามองในทันทีถึงทิศทาง และความเป็นไปได้ของทาง DC Studio ในการจะรีเซตจักรวาลใหม่ คำถามมากมายถูกส่งไปที่ DC Studio อย่างต่อเนื่องเพราะต้องยอมรับว่าไม่เพียงแค่ Henry Cavill เท่านั้นที่เหมาะสมกับบทบาทที่ตนได้รับ ตัวละครอื่น ๆ ในค่ายแห่งนี้มักจะได้รับคำชมเสมอในส่วนของการคัดเลือกนักแสดงมาได้อย่างสมบทบาท แต่การตัดออกแบบทื่อ ๆ เช่นนี้มันเหมาะสมแล้วจริง ๆ หรือไม่

ย้อนรอยดูภาพยนตร์จักรวาล DC รอยรั่วที่ เจมส์ กันน์ ตัดสินใจคว่ำ!

DC Cinematic Universe บุรุษเหล็กซูเปอร์แมน 

บุรุษเหล็กซูเปอร์แมน 

(Man of Steel)

เป็นภาพยนตร์แนวซูเปอร์ฮีโร เรื่องแรกของจักรวาล DC Cinematic Universe ฉายเมื่อปี ค.ศ. 2013 สร้างจากตัวละครซูเปอร์แมน ซูเปอร์ฮีโร่ที่โด่งดัง มีชื่อเสียงมากที่สุดบทหนึ่ง จนเรียกได้ว่าเป็นของดีซีคอมิกส์ ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างโดย ดีซีเอ็นเทอร์เทนเมนต์, เลเจนดารีพิกเจอร์ส, ซินโคพี และครูลแอนด์อันยูสชวลฟิล์มส บุรุษเหล็ก ซูเปอร์แมน ใจความหลักของเรื่องเล่าถึง เมื่อชายหนุ่มคนหนึ่ง ที่ค้นพบว่าตัวเองมีพลังวิเศษเหนือมนุษย์ทั่วไป ที่ไม่ได้มาจากโลกใบนี้ เขาจึงพยายามตามหา ค้นตัวตนที่แท้จริงว่าเขามาจากไหน เกิดอะไรขึ้น และเขาคือใคร ฉายในโรงภาพยนตร์เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ค.ศ. 2013 ในระบบ 2 มิติ, 3 มิติ และไอแมกซ์ ในช่วงเวลานั้น ถึงแม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะได้รับการตอบรับที่หลากหลาย แต่ภาพยนตร์ Man of Steel ก็จัดได้ว่าประสบความสำเร็จในบ็อกซ์ออฟฟิศ โดยสามารถทำเงินได้มากกว่า 668 ล้านดอลลาร์สหรัฐทั่วโลก โดยรวมแล้วนักวิจารณ์แต่ละรายค่อนข้างชมมากกว่าจะติเตียน ในเรื่องด้านภาพของภาพยนตร์ และการเลือกใช้ดนตรีประกอบของ ฮันส์ ซิมเมอร์ แต่ก็มีจุดติเตียนเล็กน้อย ในเรื่องจังหวะการดำเนินเรื่องของภาพยนตร์ Man of Steel และขาดการพัฒนาตัวละคร

DC Cinematic Universe แบทแมน ปะทะ ซูเปอร์แมน แสงอรุณแห่งยุติธรรม 

แบทแมน ปะทะ ซูเปอร์แมน แสงอรุณแห่งยุติธรรม 

(Batman v Superman : Dawn of Justice) 

ภาพยนตร์เล่าต่อทันที 18 เดือนหลังการต่อสู้อย่างดุเดือด ในเมืองเมโทรโปลิสที่ใคร ๆ ต่างพูดถึงระหว่างซูเปอร์แมน กับนายพลซ็อด ซูเปอร์แมนกลายเป็นหัวข้อถกเถียงในหลาย ๆ วงการขณะนั้น คลาร์ก เค้นต์ นามแฝงของซูเปอร์แมน และนักข่าวของเดลีแพลเน็ท ทั้งคู่เริ่มกังวลจึงตัดสินใจที่จะย้ายมาอยู่กับโลอิส เลน ขณะที่บรูซ เวย์น มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุด และผู้พิทักษ์เมืองกอแทมในชื่อ “แบทแมน” เขากำลังมองว่าซูเปอร์แมน จัดว่าเป็นภัยคุกคาม ด้านคลาร์กเองก็มองว่าแบทแมน เป็นภัยคุกคามเช่นกัน ทั้งคู่มีความคิดที่ตรงกัน และดูเหมือนว่าจะไม่ลงรอยกันนักในช่วงเริ่มต้น

อีกด้านหนึ่งในขณะที่เวย์น มาร่วมงานเลี้ยงของลูเทอร์ และบังเอิญได้พบกับไดแอนา พรินซ์ นักค้าของเก่าผู้ลึกลับ เวย์นลอบเข้าไปขโมยข้อมูลภายในเมนเฟรม ของบริษัทเล็กซ์ จู่ ๆ ขณะกำลังถอดรหัสข้อมูลในถ้ำค้างคาว เวย์นก็ได้นิมิตเห็นโลกหลังถูกภัยพิบัติถล่มยับเยิน โดยมีเขาเป็นหัวหน้าทีม ที่ต่อสู้กับซูเปอร์แมนภาพเหล่านั้นยิ่งตอกย้ำให้เวย์น รู้สึกไม่ไว้วางใจในตัวซูเปอร์แมนไปกันใหญ่ ภายหลังเวย์นพบว่าลูเธอร์ไม่ได้ต้องการแค่ทดลองคริปโตไนต์ แต่ลูเทอร์ยังต้องการทดลองกับยอดมนุษย์ เพื่อใช้ต่อสู้กับซูเปอร์แมน

เหตุการณ์เริ่มรุนแรงขึ้น เมื่อลูเธอร์วางระเบิดในที่ประชุม ที่ฟินช์กำลังไต่สวนซูเปอร์แมน ทำให้ทุกคนเสียชีวิต เหตุการณ์นี้สร้างรอยแผลให้กับซูเปอร์แมน เขาเสียใจที่ยับยั้งเหตุการณ์นี้ไม่ได้ จึงตัดสินใจที่จะเนรเทศตัวเองออกไปให้ไกลจากผู้คน ด้านแบทแมนเขามีแผนที่จะบุกเข้าไป ในบริษัทเล็กซ์เพื่อขโมยคริปโตไนต์ จากนั้นก็ได้ดำเนินการสร้างชุดเกราะสุดแข็งแกร่ง ปืนยิงระเบิดคริปโตไนต์ และหอกคริปโตไนต์ขึ้น 

ลูเธอร์ลักพาตัวมาร์ธา เค้นต์ ผู้ที่เป็นแม่บุญธรรมของคลาร์ก และเปิดเผยว่าตนเองนั้น ต้องการที่จะยุยงให้ซูเปอร์แมน และแบทแมนต่อสู้กัน ลูเธอร์บังคับให้ซูเปอร์แมนฆ่าแบทแมนให้สำเร็จ หรือเรียกง่าย ๆ ว่าเป็นการยืมมือกันนั่นเอง เพื่อแลกกับชีวิตของมาร์ธา ซูเปอร์แมนพยายามอธิบายให้กับ แบทแมนฟังแต่ไม่สำเร็จ ทั้งคู่ยังคงต่อสู้กันอย่างรุนแรง จึงเกิดเป็นศึกแบทแมน ปะทะ ซูเปอร์แมน ขึ้นมานั่นเอง

DC Cinematic Universe ทีมพลีชีพมหาวายร้าย

ทีมพลีชีพมหาวายร้าย

(Suicide)

ทีมพลีชีพ มหาวายร้าย Suicide Squad เล่าเรื่องราวหลังซูเปอร์แมนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่อแมนดา วอลเลอร์มีแผนการพิเศษที่จะสร้างทีม “ซุยไซด์สควอด” ซึ่งมีสมาชิกแต่ละคนในทีมเป็นอาชญากรอันตราย เพื่อหวังจะใช้ต่อต้านภัยคุกคามโลก โดยมีสมาชิกได้แก่ เดดช็อต, ฮาร์ลีย์ ควินน์, คิลเลอร์ครอค, กัปตันบูมเมอแรง, เอลไดอะโบล และสลิปน็อต อแมนดาให้ริก แฟลกเป็นหัวหน้าทีมนี้ พร้อมกับยื่นข้อเสนอ ให้กับสมาชิกทีมทุก ๆ คนที่ตกลงเข้าร่วม คือการลดโทษให้หากทำงานสำเร็จ เพื่อเป็นการป้องกันเหตุฉุกเฉิน ทั้งหมดจะต้องถูกฝังระเบิด ไว้ที่คอเพื่อกันการหลบหนี

อแมนดาจึงสั่งให้ทีมซุยไซด์สควอด เริ่มทำภารกิจพาตัวเป้าหมาย ออกมาจากที่ได้รับแจ้ง ทั้งหมดพบกับคะตะนะ นักรบสาวผู้ใช้ดาบสะกดวิญญาณเป็นอาวุธ ด้านโจ๊กเกอร์ ตัวละครหลักผู้เป็นคนรักของฮาร์ลีย์ รับรู้ได้ถึงสถานการณ์ดังกล่าวจึงหาทางช่วยเธอ ทีมซุยไซด์สควอดไปที่เมืองมิดเวย์ ด้วยเฮลิคอปเตอร์ที่ทางการเตรียมให้ แต่เฮลิคอปเตอร์ตก ทั้งหมดจึงต้องเดินเท้าต่อ ในระหว่างนั้นเกิดเหตุการณ์ชุลมุนมากมาย กัปตันบูมเมอแรง และสลิปน็อตตัดสินใจที่จะพยายามหนี กัปตันบูมเมอแรงถูกจับตัวได้ แต่ทางด้านสลิปน็อตถูกระเบิดเสียชีวิต ทีมต่อสู้ที่เหลือ กับลูกน้องของเอนแชนเทรสก่อน จะไปถึงที่หมาย และพบว่าเป้าหมายดังกล่าวคือ ตัวอแมนดาเอง ผู้ที่เป็นต้นเรื่องทั้งหมดตั้งแต่แรก

DC Cinematic Universe Wonder Woman

วันเดอร์ วูแมน  

(Wonder Woman)

เป็นภาพยนตร์ลำดับที่ 4 ที่เรียกได้ว่ากระแสดีเลยทีเดียว ของทางจักรวาลขยายดีซี (DC Extended Universe) โดยใช้เค้าโครงมาจากตัวละครวันเดอร์วูแมน ของสำนักพิมพ์ดีซีคอมิกส์ นำแสดงโดยกัล กาด็อท นักแสดงที่หลายต่อหลายคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน ว่าเหมาะสมอย่างยิ่งเธอดูทรงพลัง และมีเสน่ห์มากเป็นพิเศษเมื่อได้สวมชุด Wonder Woman ประกบคู่กับ คริส ไพน์, ลูซี่ เดวิส, คอนนี่ เนลเซ่น กำกับโดยแพตตี้ เจนกินส์ อำนวยการสร้างโดยชาลส์ โรเวน, แซ็ค สไนเดอร์ และดีโบราห์ สไนเดอร์ ตัวภาพยนตร์ Wonder Woman เริ่มถ่ายทำเมื่อราว ๆ เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2015 และออกฉายอย่างเป็นทางการในสหรัฐอเมริกาในปี 2017

ภาพยนตร์วันเดอร์ วูแมน Wonder Woman เล่าถึง ไดนาอ่าเจ้าหญิงแห่งอเมซอน ที่ถูกฝึกฝนให้เป็นนักรบไร้เทียมทาน ความสามารถนั้นเหนือคำบรรยาย เติบโตบนเกาะสวรรค์อันโดดเดี่ยว วันหนึ่งเธอได้พบกับนักบินชาวอเมริกัน ที่ขับเครื่องบินมาตกริมชายหาดโดยบังเอิญ เมื่อได้พูดคุยกันเขาเล่าถึงความขัดแย้งต่าง ๆ ที่ขณะนี้กำลังเกิดขึ้นบนโลกภายนอก เรื่องราวเหล่านั้นดูรุนแรง จนในที่สุดไดอาน่าตัดสินใจที่จะออกเดินทาง จากบ้านเกิดเมืองนอนของตนเองไป เพราะเชื่อว่าเมื่อถึงที่นั่นตัวเองจะสามารถหยุดยั้งภัยคุกคามต่าง ๆ ได้อย่างแน่นอน ซึ่งในสงครามที่เธอต่อสู้เคียงข้างเหล่ามวลมนุษย์ การต่อสู้เหล่านั้นทำให้ไดอาน่า ได้ค้นพบพลังเต็มรูปแบบ และโชคชะตาที่แท้จริงของเธอว่าเธอไม่ใช่มนุษย์ทั่วไป

Justice League

จัสติซ ลีก 

(Justice League) 

คือภาพยนตร์รวมทีมซูเปอร์ฮีโรสัญชาติอเมริกัน ในจักรวาลขยายดีซี สุดตระการตาที่ทางค่ายภูมิใจนำเสนอ ภาพยนตร์ Justice League กำกับโดยแซ็ก สไนเดอร์ ร่วมเขียนบทโดยคริส เทอร์ริโอ และจอสส์ วีดอน เนื่องจากเป็นภาพยนตร์ที่เป็นการรวมตัว ของบรรดาซุปเปอร์ฮีโร่ ทำให้ในเรื่องนี้มีทีมนำแสดงรวมกันหลายรายไม่ว่าจะเป็น เบน แอฟเฟล็ก, เฮนรี แควิลล์, กัล กาด็อท, เจสัน โมโมอา, เรย์ ฟิชเชอร์, เอมี่ อดัมส์,เอซรา มิลเลอร์, แอมเบอร์ เฮิร์ด และ เจ. เค. ซิมมอนส์ 

ภาพยนตร์ Justice League เล่าเรื่องราวย้อนไปหลายพันปีก่อน Steppenwolf และกองทัพ Parademon ได้พยายามจะครอบครองโลก โดยอาศัยการผสานพลังของ Mother Box ทั้งสาม แต่แผนการดังกล่าวไม่สำเร็จ

ถูกกำราบลงโดยกองทัพฝ่ายโลก ซึ่งเป็นการรวมกำลังต่อต้านกันของ มนุษย์โลก เหล่าเทพแห่งโอลิมปัส ชาวนักรบแอมะซอน ชาวแอตแลนติส และกองกำลัง Green Lantern Corps หลังจากการต่อต้าน ร่วมแรงร่วมใจขับไล่กองทัพของ Steppenwolf ไปได้แล้ว กล่อง Mother Box ก็ถูกแยกออกไปจากกัน และถูกนำไปเก็บซ่อนไว้ทั่วโลกเพื่อให้ยากต่อการตามหา

ภาพยนตร์ตัดมาที่โลกปัจจุบัน Steppenwolf เวนคืนแผนการร้ายหมายจะครองโลกอีกครั้ง ชิงเอา Mother Box มาจากเมือง Themyscira ได้สำเร็จ ราชินี Hippolyta ไม่รอช้ารีบเตือน Diana บุตรสาวว่า Steppenwolf ได้กลับมาแล้ว Diana ตอบรับในทันทีทันใดจึงไปสมทบกับ Bruce Wayne เพื่อช่วยกันตามหาเหล่า metahuman เพื่อที่จะมาร่วมการต่อสู้นี้ การรวมตัวเริ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดย Wayne เดินทางไปพบกับ Arthur Curry และ Bary Allen ในขณะที่ Diana เองก็ออกตามหา Victor Stone ทางฝ่าย Wayne ในระหว่างการออกตามหาสมาชิกนั้นเขาล้มเหลวในการชวน Curry เข้าร่วมกลุ่มแต่ก็ได้ตัว Allen ซึ่งมีความกระตือรือร้นอย่างมากเข้ามาร่วมทีม ส่วนทาง Diana เองก็ไม่ต่างกันเธอไม่ได้รับการตอบรับแต่แม้จะไม่สามารถชักชวน Stone ให้เข้าร่วมได้ ก็ยังพอจะโชคดี Stone รับปากจะช่วยตามหาตำแหน่งของภัยคุกคามในครั้งนี้ หากเขาสามารถหาได้พบในเวลาต่อมา Stone ก็เข้าร่วมกับทีมอยู่ดีในท้ายที่สุด เมื่อ Silas ผู้เป็นพ่อ และเจ้าหน้าที่คนอื่นจากทาง S.T.A.R. Labs ได้ถูกลักพาตัวไปเพื่อตามหา Mother Box อีกกล่องที่เชื่อว่าอยู่กับมนุษย์โลก

Aquaman

อควาแมน เจ้าสมุทร 

(Aquaman)

เรื่องราวต้นกำเนิดของชายหนุ่มนาม อาร์เธอร์ เคอร์รี่ ครึ่งมนุษย์ และครึ่งแอตแลนเทียน ที่จะต้องพบกับการผจญภัยในชีวิตของเขา เรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ทำให้เขา ได้รู้ถึงแค่ตัวตนที่แท้จริงของตัวเองเท่านั้น แต่ยังได้พบอีกว่าเขามีเกียรติอันสูงสุด และมากพอที่ได้เกิดมาเป็น “กษัตริย์” ผู้ที่จะได้ครองแอตแลนเทียนคนต่อไป แต่หนทางก้าวสู่การเป็นใหญ่แน่นอนว่า มันไม่เคยโรยด้วยกลีบกุหลาบ เจ้าชายอาร์เธอร์ ต้องเผชิญหน้ากับน้องชายต่างมารดา ออร์ม เมเรียส ผู้ที่ได้รับสิทธิ์ในการปกครองคาบสมุทรคนปัจจุบัน อีกทั้ง อาร์เธอร์ ยังต้องเข้ารับมือกับบททดสอบต่าง ๆ เพื่อที่จะได้พิสูจน์ว่าตัวของเขานั้นสามารถครอบครองอาวุธตรีศูล อาวุธในตำนานที่สืบทอดมาจากราชาคนก่อน และกลายเป็นราชาแห่ง 7 คาบสมุทรอย่างแท้จริง ตรงตามที่หลายคนคาดหวัง และตรงตามประเพณีดั้งเดิม ของชาวแอตแลนติกทุกประการ เขาต้องปกป้องสงครามต่าง ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นระหว่างโลกมหาสมุทร และบนพื้นดิน

ชาแซม

ชาแซม

(Shazam)

เรื่องราวของ บิลลี่ แบตสัน เข้าเป็นผู้โชคดีที่หลังจากที่ได้พลังพิเศษ กลายร่างเป็นซูเปอร์ฮีโร่ มีหุ่นล่ำบึ้กดูดีทุกสัดส่วนนามว่า ชาแซม แต่ตัวเขาเองก็อดตั้งคำถามในใจไม่ได้ การดำเนินชีวิตไปในแต่ละวัน เขามักจะมีคำถามเสมอ ว่าเขาคู่ควรกับพลังนี้หรือไม่ ในทางกลับกันเรื่องราวของชาแซม ก็สร้างความไม่พอใจให้กับ เฮสเพอรา และ คาลิปโซ่ ธิดาแห่งเทพแอตลาส ที่ได้รู้ว่าบิลลี่หรือชาแซมนั้น ได้รับพลังวิเศษที่ไม่คู่ควร พวกนางจึงมาเยือนโลก เพื่อหวังจะนำพลังเหล่านี้กลับคืนไป ในระหว่างที่มาถึงพวกเขาสร้างความวุ่นวาย ให้กับโลกไปพร้อมกัน บิลลี่ทราบเรื่องดังนั้น บวกกับได้เห็นถึงความวุ่นวายที่เกิดขึ้นจึงต้องผนึกกำลัง กับครอบครัวเข้าปกป้องโลก พร้อมกับการพยายามพิสูจน์ ให้เห็นว่ามนุษย์เด็กวัยรุ่นแบบเขา ก็คู่ควรกับพลังพิเศษนี้

ทีมนกผู้ล่า กับฮาร์ลีย์ ควินน์ ผู้เริดเชิด

ทีมนกผู้ล่า กับฮาร์ลีย์ ควินน์ ผู้เริดเชิด

(Birds of Prey)

ภาพยนตร์ที่บอกเล่าเรื่องราวของ วายร้ายหญิงสุดแซ่บ ที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด จากภาพยนตร์เรื่อง Suicide Squad เธอคือ ฮาร์ลีย์ ควินน์ Birds of Prey เป็นภาพยนตร์เรื่องเดี่ยวของเธอ ที่จะได้มาโชว์ความแสบซ่า แบบเต็มพิกัด นอกจากนี้แล้วภาพยตร์เรื่องนี้ยังพาตัวละครอีกมากมายมาร่วมจอด้วย ไม่ว่าจะเป็น Black Canary, Cassandra Cain และอื่น ๆ อีกอย่างคึกคัก นี่คืออีกหนึ่งภาพยนตร์จาก World of DC ที่ไม่ได้เป็นภาพยนตร์ระดับบล็อคบัสเตอร์ ทุนสร้างสูง แต่นี่คืออีกหนึ่งภาพยนตร์ ที่มุ่งหน้าสู่ความรุนแรงที่ทางค่ายอยากจะนำเสนอ ในระดับเรท R นับเป็นอีกรสชาติใหม่ที่แตกต่าง สร้างความหลากหลายให้กับจักรวาล DC ที่ไม่จำเป็นต้องมืดหม่นอย่างที่ใคร ๆ กล่าวไว้ หรือสว่างสดใสเพียงอย่างเดียว!!!

วันเดอร์ วูแมน 1984

วันเดอร์ วูแมน 1984

(Wonder Woman 1984)

ชะตากรรมของโลกอยู่บนเส้นด้ายอีกครั้ง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันรุนแรง และมีเพียง วันเดอร์ วูแมน เท่านั้นที่จะช่วยได้! เราจะได้เห็น ไดอาน่า ปริ๊นซ์ ในบทบาทของ กัล กาโดท ในช่วงเริ่มต้นเธอใช้ชีวิตเรียบง่ายท่ามกลางผู้คนในยุค 1980 ยุคนี้มันที่เต็มไปด้วยสีสัน ผู้คนใช้ชีวิตกันอย่างคลาสสิค และเป็นช่วงเวลาที่คนเรา มักไขว่คว้าเพื่อให้ได้มาซึ่งทุกอย่างที่ตนเองกำลังต้องการ แม้ว่าเธอจะมีพลังอย่างเต็มเปี่ยม แต่ไดอาน่าก็ยังเลือกที่จะเก็บตัวเงียบ ไม่บอกใครเกี่ยวกับพลังฮีโร่ของเธอ คอยดูแลพวกวัตถุโบราณ ไม่มีใครรู้ว่าเธอมาจากไหน เธอแฝงตัวอยู่ที่นั่นเรื่อยมา และเลือกที่จะซ่อนความลับนี้ต่อไป แต่ตอนนี้เหตุการณ์ที่ แมกซ์เวลล์ ลอร์ด กำลังทำมีผลเสียต่อมวลมนุษย์ทั่วทุกมุมโลก พรลึกลับกับอำนาจที่ได้มาโดยไม่มีขอบเขตสร้างความชุลมุน ไดอาน่า จะต้องก้าวสู่การเป็นจุดสนใจออกตัวจัดการกับเรื่องนี้ และต้องใช้ความฉลาด ความแข็งแกร่ง และที่สำคัญคือความกล้าทั้งหมด ที่มีเพื่อปกป้องมนุษย์จากโลกที่พวกเขาสร้างขึ้นมา

เจมม์ กันน์ อุดรอยรั่วไม่ไหว “กดปุ่นรีเซตจักรวาลใหม่ทั้งหมด”

“ผมได้คุยกันกับ เจมส์ หลายต่อหลายครั้ง เกี่ยวกับสิ่งนั้น แต่ผมคิดว่าแนวทางที่เขาสนใจหลัก ๆ ก็เห็นจะเป็น การเริ่มต้นจักรวาลใหม่ทั้งหมด เจมม์จะเริ่มสร้างมันขึ้นมาใหม่อีกครั้งโดยเริ่มจากศูนย์ และเริ่มต้นด้วยความหนุ่มสาว และสดใหม่ และอีกประการหนึ่งคือผมคิดว่ามันจำเป็น ที่จะต้องทำแบบนั้น” นี่คือคำให้สัมภาษณ์จาก อดีตนักมวยปลํ้าคนสนิทของเจมม์ ผู้ผันตัวมาเป็นนักแสดงอย่างเต็มตัว ที่ได้ให้สัมภาษณ์กับ Insider ระหว่างการออกงานโปรโมทภาพยนตร์ เรื่องใหม่ของเขาที่กำลังจะเข้าฉาย “Knock at the Cabin”

“ส่วนตัวแล้วผมคิดว่าในการที่จะชุบชีวิต โครงสร้างจักรวาลดีซี คุณต้องเริ่มต้นใหม่จากศูนย์ และในด้านของนักแสดง ก็คิดว่าสมควรจะเริ่มต้นจากนักแสดงวัยหนุ่มสาว” นักแสดงวัย 54 พูดต่อ

“คุณต้องเริ่มวางแผนเกี่ยวกับจักรวาลใหม่ สำหรับในอีก 15 ปีข้างหน้า และผมแค่ไม่คิดว่าคุณ จะร่วมกับผมในการทำแบบนั้นได้ และผมค่อนข้างที่จะเข้าใจมันนะ และอีกอย่างหนึ่ง ผมต้องขอพูดตรง ๆ เลยว่าผมปลื้มใจนะ เพราะว่าผมคงไม่อยากที่จะสวมบทบาทเป็นตัวละครที่ผมเองนั้น ไม่สามารถมอบสิ่งที่พวกเขาสมควรจะได้รับได้ ผมแค่ไม่รู้ว่าผมสามารถ ที่จะรับมือกับภาระทางร่างกาย ที่เกี่ยวข้องกับอายุไหวรึเปล่า และผมไม่คิดว่าผมก็คงไม่ได้มีชีวิตต่อไปอีกยาวนาน มีร่างกายที่สมบูรณ์อยู่เสมอ เพื่อที่จะวางแผนล่วงหน้า สำหรับภาพยนตร์จำนวนมากของจักรวาลดีซีในอนาคต ดังนั้นผมก็แค่ไม่รู้ว่าผมจะเป็นชายคนนั้นได้รึเปล่า”

ย้อนกลับไปในราว ๆ ปี 2021 ตัวของนักแสดงรายนี้ ได้ออกมาเปิดเผยว่า เขาได้ส่งสัญญาณไปยัง Warner Bros. ว่าเขามีความประสงค์อยากที่จะเป็นนักแสดงคนต่อไป ที่อยากจะรับบทเป็น เบน วายร้ายคู่ปรับของ แบทแมน

“ผมไม่ได้ปิดบังเรื่องนี้เลย” นักแสดงมากฝีมือบอกกับ JusticeCon

“ในตอนนั้นอยากที่จะรับบทเป็น เบน มาก ๆ จนต้องไปบอกกับ Warner Bros. ผมมีนัดพูดคุย นัดหารือกับพวกเขา อีกทั้งมีนัดพูดคุยกับดีซีด้วยในตอนนั้น ผมเข้าไปหาพวกเขาแล้วบอกว่า ‘ผมอยากที่จะเล่นเป็น เบน’ ผมไม่ได้ล้อเล่นนะ (พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง) แล้วมันก็มีเสียงตอบเล็ก ๆ กลับมาว่า ‘โว้ว เรายังไม่เริ่มหาตัว เบน ด้วยซํ้า’ เมื่อได้ยินแบบนั้น ผมก็ตอบไปประมาณว่า ‘ผมไม่สนหรอก ผมจะเล่นเป็นเขา’

แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นทุกสิ่งทุกอย่างมีการเชื่อมโยงเกี่ยวกับ Warner Bros. และดีซีสตูดิโอ ก็ต้องพบกับความเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ โดยในเดือนตุลาคมปลายปีที่ผ่านมา Warner Bros. Discovery ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า เจมส์ กันน์ และโปรดิวเซอร์ ปีเตอร์ ซาฟราน จะเข้ามาเป็นผู้บริหารสูงสุด และประธานของดีซีสตูดิโอคู่กันอย่างเป็นการออกสื่อ

และหลังจากนั้นก็มีรายงาน ถึงความเปลี่ยนแปลงในหลาย ๆ เกี่ยวกับโครงการของดีซี ทั้งภาพยนตร์ และตัวละครจากยุคก่อนหน้า ที่แต่ละเรื่องนั้นจะถูกยกเครื่องใหม่ทั้งหมด โดยหนึ่งในนั้นคือ การที่ เฮนรี่ คาวิลล์ ต่อไปจากนี้จะไม่ได้สวมผ้าคลุม ในนามของของบุรุษเหล็ก ซูเปอร์แมน อีกต่อไป

โดยครั้งล่าสุดที่เราได้เห็น เจ้าวายร้าย เบน คู่ปรับของแบทแมนบนจอเงิน คือ ในภาพยนตร์ The Dark Knight (2022) ของผู้กำกับ คริสโตเฟอร์ โนแลน ซึ่งในครั้งนั้น วายร้ายภายใต้หน้ากากนามว่า เบน คนนี้ได้รับบทโดย ทอม ฮาร์ดี้

อนาคต เตรียมเชื่อมจักรวาลกันหมดทั้งหนังโรง วีดีโอเกม และสื่ออื่นๆ

ในด้านของ เจมม์ กันน์ ก็เผยโครงการใหม่ด้วยเกี่ยวกับหลาย ๆ เรื่องที่กำลังวางแผนสร้างจักรวาลดีซีครั้งใหม่ โดยจะยังคงมีฮีโร่ดังอย่างซูเปอร์แมน แบทแมน กรีนแลนเทิร์น รวมอยู่ด้วยภายใต้นักแสดงคนใหม่ แต่ยังไม่เจาะจงตลาด ฝั่งวีดีโอเกมเป็นพิเศษ

เขากล่าวว่า “DCU ในอนาคตจะเชื่อมต่อกันในภาพยนตร์ โทรทัศน์ เกม และอนิเมชัน แต่ละตัวละครจะมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน คงเส้นคงวามากขึ้น เล่นโดยนักแสดงคนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง และทุกเรื่องจะเล่าเนื้อเรื่องหนึ่งเดียว”

อย่างไรก็ตาม เจมม์ กันน์ได้แจ้งเพิ่มเติมว่าทางสตูดิโอ จะมีแบรนด์เรียกว่า DC Elseworlds เผื่อให้แยกจักรวาลไปได้ ในกรณีที่เนื้อหาไม่เข้ากันกับแนวทางใหม่ หรือเป็นงานเก่าตกค้างที่ยังไม่ออกฉาย อย่างเช่นหนังภาคต่อ The Batman ฉบับนักแสดงหนุ่ม โรเบิร์ต แพตตินสัน หรือแม้แต่เรื่อง Joker ของ วาคิน ฟินิกซ์ ที่มีภาคต่อเช่นกัน ด้วยสรุปคือเจมม์ ยืนยันที่จะสร้างจักรวาลดีซีขึ้นมาใหม่ โดยเริ่มต้นใหม่ทุกอย่างไม่เว้นแม้แต่ตัวนักแสดง ตัวเขามองเห็นความไม่ปะติดปะต่อ ของเรื่องราวในจักรวาลนี้จนยากที่จะแก้ไข การรีเซตจักรวาลดีซีจึงกลายเป็นทางเลือกเดียวที่ดูจะเหมาะสมที่สุด ในด้านของแฟนภาพยนตร์เองแม้ในช่วงแรกมีการแสดงความไม่พอใจเพราะหลาย ๆ คนยังเสียดายนักแสดงในแต่ละบท แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่าจักรวาลดีซีเดิมนั้นมีปัญหาหลายอย่าง และมันก็ยากเกินกว่าจะแก้ได้

ขอขอบคุณ : จักรวาลดีซี  Superman  Man of Steel  Batman v Superman Suicide Squad Wonder Woman Shazam อนาคตดีซี

ปิด
QUEENCLUB88 แจกโบนัสฟรี 100%

QUEENCLUB88 แจกโบนัสฟรี 100%

โบนัสฝากเงินครั้งแรก 100%