Avatar The Way of Water ภาคต่อหนังมหากาพย์

มหากาพย์ที่ทั้งโลกรอคอย Avatar The Way of Water ภาคต่อสุดเร้าใจ การถูกรุกรานของจักรวาลแพนดอร่า ที่แสนตระการตาตลอด 3 ชั่วโมงเต็ม!

Avatar The Way of Water วิถีแห่งสายน้ำ สุดตระการตา

  อวตาร The Way of Water เล่าเรื่องราวภาคต่อ ความเป็นไปของ เจค ซัลลี ในช่วงเวลาหลายปีต่อมา ได้ก่อร่างสร้างครอบครัวเล็ก ๆ ของเขาเอง อย่างสงบสุขบนดาวแพนดอร่า แต่ไม่ทันไรครอบครัวของซัลลี ต้องเผชิญหน้าปัญหาที่ย้อนกลับตามมาอีกครั้ง พวกเขาต้องร่วมมือ และหาวิธีขจัดอุปสรรคที่จะเป็นภัยคุกคามเพื่อให้อยู่รอด พร้อมกับปกป้องกัน ทุกวิถีทางให้ปลอดภัยจากอันตราย 

ความยาวหนังใช้เวลาทั้งสิ้น 2-3 ชั่วโมง เล่าเรื่องราวได้อย่างหลากหลาย ความรัก แอคชั่น ดราม่า การดิ้นรน และการเอาตัวรอด มาครบทุกรสชาติของอารมณ์ ใครที่กังวลว่าภาค 2 แบบนี้ จะสนุกสู้ภาคแรกไหวหรือไม่ ก็ต้องบอกเลยว่าไม่ผิดหวังแน่นอน การันตีจากรายได้ วันแรกที่ The Way of Water ออกฉายใน 15 ประเทศทั่วโลกเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ที่ผ่านมาเป็นเงินกว่า 15.8 ล้านดอลลาร์ หรือราว 553 ล้านบาท เลยทีเดียว อีกหนึ่งจุดเด่น ที่จะไม่ถูกกล่าวถึงก็คงจะไม่ได้

งานภาพที่ทำออกมาดีเยี่ยมราวกับเป็นการยกระดับไปอีก 10 ปีข้างหน้า ฉาก การออกแบบตัวละคร และ CGI ของ อวตาร เป็นที่กล่าวขาน ในวงการภาพยนตร์เรื่อยมา แม้กระทั่งในภาคนี้ The Way of Water  ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง พิถีพิถันทุกจุด ฉากในป่าฝนเพื่อปูเรื่องเข้าสู่ภาคใหม่ ฉากต่อสู้ หรือแม้แต่ฉากที่อยู่ใต้น้ำที่ภาพคมชัด เสมือนกับได้ท่องจักรวาลแพนดอร่า อย่างไงอย่างงั้น

ทำให้แฟนหนังทุกคนที่ได้เข้าไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ต่างประทับใจ ในการเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ถ่ายทอดให้เห็นถึงวิถีชีวิต ลักษณะตัวละคร ลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่แสนจะงดงาม เรียกได้ว่าทำได้ประทับใจไม่แพ้ภาคแรก

👤“เจมส์ คาเมรอน” ชื่อนี้การันตีคุณภาพ

เจมส์ คาเมรอน มองว่า “The Way of Water หรือภาพยนตร์อวตาร จะเป็นสิ่งที่จะปลุกเร้า ความรู้สึกเชื่อมโยงกับธรรมชาติในตัวเราทุกคน และคาดหวังเล็ก ๆ ว่าบางทีหลังจากดูหนังจบไป 10 นาที คุณอาจจะมองโลกเปลี่ยนไปบ้าง” ชิ้นงานในทุก ๆ รายละเอียด ที่เขาสร้างสรรค์ออกมานั้น ก็ไม่สามารถจะสบประมาทอะไรใด ๆ ได้เลยจริง ๆ

คุณภาพจัดเต็มสมกับเป็นหนังฟอร์มยักษ์ระดับฮอลลีวูด ที่ทั่วโลกต่างจับตามองมากที่สุด จากใจผู้ที่ได้รับชม กล่าวได้เลยว่า อวตาร 2 The Way of Water เป็นสุดยอดภาพยนตร์ฮอลลีวูดอีกเรื่อง ในรอบทศวรรษเลยทีเดียว ที่สามารถมอบประสบการณ์นั่งดูหนังแล้วรู้สึกว้าว และตระการอะไรแบบนี้ ยิ่งถ้าใครได้รับชมแบบ 4 DX ยิ่งคุ้มค่าตั๋วสุด ๆ ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

หนังเรื่องนี้สามารถเรียกย้อนบรรยากาศ ของหนังสุดล้ำเหนือจินตนาการเหล่านั้น กลับมาได้อย่างอิ่มเอม แฟนหนังทั่วโลก ที่รอคอยต่างเดินออกมาจากโรงภาพยนตร์ด้วยท่าที ที่ค่อนข้างพึงพอใจ ล้ำสมัยและเปิดโลกการชมภาพยนตร์ได้ดีพอสมควร คือแค่ตีตั๋วมานั่งดูงานสร้าง และรายละเอียดต่าง ๆ ของหนังเรื่องนี้โดยเฉพาะ ก็เรียกได้ว่าคุ้มค่าตั๋วไปเรียบร้อยแล้ว

🎬 เทคนิคแพรวพราว อุดรอยรั่วได้อย่างแนบเนียน ด้วยคะแนน 100/10

อวตาร : วิถีแห่งสายน้ำ เต็มไปด้วยเทคนิคพิเศษอันแพรวพราว เปรียบเสมือนเป็นงานศิลปะชิ้นหนึ่งเลยก็ว่าได้ ด้วยฝีมือของนักสร้างสรรค์ที่ถนัด พิถีพิถันใส่ใจทุกรายละเอียด และช่ำชองกับงานด้านนี้โดยเฉพาะ จนหาที่ติแทบจะไม่ได้ ทำให้ความยาวของภาพยนตร์ที่กินเวลามากถึง 3 ชั่วโมงของเรื่องนี้ไม่ใช่อุปสรรคเลยแม้แต่น้อย

เป็นหนังอีกเรื่องที่ทำให้รู้สึก ไม่อยากลุกไปไหน เพลิดเพลิน และดื่มด่ำกับบรรยากาศภาพ และเสียง ได้อย่างไม่มีจุดบกพร่อง อาการปวดปัสสาวะไม่เกิดระหว่างทาง อาจเพราะว่ากลัวจะพลาดช็อตเด็ด ๆ และภาพความงดงามของหนังเรื่องนี้ ที่อัดแน่นเต็มจอทั้ง 190 นาทีของหนังก็ว่าได้

แน่นอนว่าเทคนิคงานสร้างของหนังอวตารในภาคนี้ คงจะต้องให้คะแนน 10 เต็ม 10 อย่างเลี่ยงไม่ได้ ไม่ผิดหวัง กับทุก ๆ องค์ประกอบงานสร้างของหนังเรื่องนี้ ถูกออกแบบ และคัดเลือกหลายต่อหลายครั้ง ความดีงามที่มาอุดรอยรั่วต่าง ๆ ของหนังได้อย่างสมบูรณ์แบบ สมกับเป็นผลงานระดับฮอลลีวูด หากใครที่ยังไม่ได้ชมภาพยนตร์อวตาร 2

สิ่งที่คุณเห็นในตัวอย่างหนังนั้น เป็นเพียงแค่เสี้ยวเล็ก ๆ เท่านั้น เพราะเนื้อหาภายในภาพยนตร์ จะพาคนดูออกไปสำรวจอีกมุมของดาวแพนดอร่า สวยงาม เป็นธรรมชาติทั้งน่าตื่นตา และตื่นใจไปพร้อม ๆ กัน ชนิดที่ว่าจะต้องลุกขึ้นปรบมือ ให้กับทีมออกแบบเทคนิคพิเศษ ให้กับหนังเรื่องนี้เป็น 13 ปีที่คุ้มค่า และล้ำกว่าทุกเรื่องอย่างแท้จริง ส่งอารมณ์ภาพยนตร์ให้ดูมีมนต์ขลัง เพราะนี่คือหนังที่ทำให้ผู้ชมสามารถที่จะน้ำตาปริ่มได้ แม้กระทั่งฟองออกอากาศในน้ำ ที่กำลังลอยผ่านหน้าไปบนจอ

แต่เดี๋ยวจะหาว่าอวยหนัง อวตาร : วิถีแห่งสายน้ำ เกินไป เพราะจริง ๆ หนังก็ยังมีช่องโหว่เล็ก ๆ และเสียงบ่นอุบอิบจากผู้ชมบางส่วนอยู่บ้างเช่นกัน โดยเฉพาะโครงเรื่อง และบทหนังที่ค่อนข้างจะเพลย์เซฟไปสักหน่อย

เน้นความเบสิค ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่มากนัก มาด้วยพล็อตหนังแบบง่าย ๆ ธรรมดา ๆ ที่คนดูน่าจะคาดเดาได้ไม่ยาก เหมือนต้องการรักษาโครงเรื่องหลักซะจนไม่กล้านำเสนออะไรให้โดดเด่น แตกต่างไปจากเดิมเท่าไหร่ แต่กระนั้นเส้นเรื่องของหนัง ก็ยังคงแข็งแรง และหนักแน่นดีตลอดทั้งเรื่อง ไม่หวือหวาแต่ไม่เวียนหัว ดูได้เพลิน ๆ ตลอดรอบการฉาย และเมื่อมาได้ความอลังการของงานสร้างนี่แหละ ที่มาช่วยอุดปะรอยรั่วตรงนี้ให้เรียบเนียน สนองความคาดหวัง และเพิ่มอรรถรสได้อย่างดีเลยทีเดียว

🎬 สมบทบาท ทั้งตัวละครหลัก และนักแสดงสมทบ ด้วยคะแนน 10/10

  ทางด้านการแสดง ก็ต้องบอกว่าไว้วางใจได้ 10 เต็ม 10 แม้ว่าโดยทั่วไปผู้ชมจะไม่ค่อยได้คลุกคลีกับคาแรกเตอร์ ที่เป็นมนุษย์ มากมายสักเท่าไหร่ในเรื่องนี้ แต่พวกเขาทุกตัวละครก็คือนักแสดงที่มาถ่ายทอดอารมณ์ การแสดงออก อิริยาบถต่าง ๆ ออกมาได้ดี 

จนบางทีก็หลงลืมไปถึงว่าเป็นอวตารตัวจริง ไม่ใช่มนุษย์อย่างที่เรารับรู้ เนื้อเรื่องที่พาตัวละครทั้งหลาย ไปพบเจอกับสถานการณ์ต่าง ๆ ทำให้คนดูสามารถเข้าถึงเหตุการณ์นั้นได้แบบที่ไม่มีข้อกังขา สีหน้า และอารมณ์ถูกคัดกรองโดยฝีมือของผู้กำกับมากฝีมือ ผลงานที่ได้ออกมาสู่สายตาชาวโลก จึงเป็นที่ประจักษ์ “แซม เวิร์ธธิงตัน”, “โซอี ซัลดานา” หรือ “สตีเฟน แลงก์” ฝีมือการแสดงของพวกเขา ถือว่าทำหน้าที่ในฐานะของนักแสดงได้อย่างดีเยี่ยม โดดเด่นอีกครั้ง

โดยจะว่าไปแล้ว ภาพยนตร์เรื่อง อวตาร : วิถีแห่งสายน้ำ น่าจะถูกปรับสัดส่วน ให้กลายมาเป็นหนังที่มีส่วนผสมของความเป็นหนังครอบครัว การใช้ชีวิต และหนังวัยรุ่นสไตล์ coming of age มากขึ้นหน่อย ๆ เนื่องจากเราจะสังเกตได้ว่า มีตัวละครที่เพิ่มมากขึ้น มีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเดินเรื่องด้วยการผจญภัยในดินแดนใหม่ ๆ ที่น่าตื่นตา

เหมือนกับว่าเป็นการพาผู้ชมออกสำรวจดินแดนใหม่ ๆ ทำให้การสอดแทรกของบทต่าง ๆ บนดาวแพนดอร่าดวงที่ค่อนข้างกว้างขวางแห่งนี้ ยังคงเป็นเพียงส่วนเดียวของเรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้นทั้งหมดบนดาวดวงนี้เท่านั้น

ขณะที่ทีมนักแสดงสมทบ ที่เพิ่งเข้ามาเสริมในภาคนี้ ก็สามารถถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละคร และบุคลิกได้สมกับที่ เจมส์ คาเมรอน เป็นผู้ควบคุมไม่ว่าจะเป็น “เคต วินสเลต” หรือ “คลิฟฟ์ เคอร์ติส” นับว่าเป็นการส่งเสริมองค์ประกอบการแสดง ที่ค่อนข้างน่าประทับใจ พวกเขาสามารถตีบทได้แตกกระเจิง ไม่หลุดจากตัวความเป็นตัวละครนั้น ๆ แม้แต่น้อย

และสุดท้ายสำหรับทีมนักแสดงที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือเหล่านักแสดงเจนใหม่ “เจมี่ แฟลตเตอร์ส”, “บริเตียน ดอลตัน”, “แจ็ค แชมป์เปียน” หรือ “เบลีย์ บาส” ทั้ง 4 คนนี้ ถือเป็นส่วนเสริมที่แสนสำคัญในการเติมเต็มชีวิตชีวาให้กับหนังภาคนี้ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นได้ดีด้วย

🎬 บทไม่สุดตอนนี้ ไม่รู้จะไปสุดอีกทีตอนไหน ด้วยคะแนน 8/10

เดี๋ยวจะหาว่าอวยจนเกินไป ในความเป็นจริงแล้ว อวตาร : วิถีแห่งสายน้ำ ก็มีจุดหนึ่งที่แฟนหนังหลาย ๆ คนแอบผิดหวัง นั่นคือการเล่าเรื่อง ในแบบที่แสนจะเบสิค ไร้ความแปลกใหม่ คาดเดาตอนจบได้ในทันทีทันใดที่อ่านเรื่องย่อ ใครก็ตามที่แอบลุ้น ว่าตัวอย่างที่ออกมา เมื่อเข้าไปดูจริงอาจจะได้เห็น จุดพีค หรือเรื่องราวสุดเซอร์ไพร์บ้าง บอกเลยว่าไม่มี หนังจะค่อย ๆ เล่าเรื่องราวไปในแบบที่เน้นความต่อเนื่อง นอกจากงานภาพสุดว้าวแล้ว เนื้อเรื่องไม่ได้ว้าวขนาดนั้น

แต่อย่างไรก็ดีจุดยืนของภาพยนตร์ อวตาร : วิถีแห่งสายน้ำ ค่อนข้างชัดเจน เน้นให้เห็นถึงความสำคัญของระบบนิเวศ ที่มักจะเกิดขึ้นจริงบนโลกแห่งนี้ หากคุณเป็นสายนักอนุรักษ์ ก็อาจจะพอใจไม่น้อย

นอกจากนี้ เชื่อว่าหลายต่อหลายคน น่าจะสัมผัสได้ถึงสารข้อความบางอย่าง จากผู้กำกับหัวเรือใหญ่ของอวตาร 2 เจมส์ คาเมรอน พยายามสื่อสารออกมา ในภาพยนตร์เรื่องนี้ อวตาร : วิถีแห่งสายน้ำ ไม่ว่าจะเป็น การดำรงชีวิตตามมาวิถีดั้งเดิมของชนเผ่า หรือแม้แต่การให้ความสำคัญไปกับ การสะท้อนปัญหาการรุกรานระบบนิเวศ ของเผ่าพันธุ์สัตว์น้ำ

ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้หยิบใส่ประเด็นเหล่านี้สอดแทรก ลงไปเป็นข้อความที่ค่อนข้างชัดเจน เพื่อหวังสะกิดหัวใจของชาวโลก และอย่างน้อย ๆ ก็ยังคงแสดงให้เห็น อีกเช่นเคยว่า มนุษย์ ในสายตาจากสิ่งมีชีวิตอื่น หรือแม้แต่สัตว์ทั้งหลาย ก็ถูกมองไม่ต่างไปจากผู้รุกราน และผู้ทำลายดี ๆ นี่เอง

นี่ก็เลยเป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ เลยว่า อวตาร : วิถีแห่งสายน้ำ เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพของฮอลิวูด เป็นหนังที่ยอดเยี่ยมอีกเรื่องหนึ่ง อาจเป็นที่สุดของปี 2022 เลยก็ไม่เคอะเขินที่จะกล่าว เมื่อมองภาพรวมองค์ประกอบหลาย ๆ อย่างแล้ว เรื่องนี้ก็จัดได้ว่ายอดเยี่ยมไปแทบจะในทุก ๆ ด้านกันเลย

เป็นหนังที่ร้อยเรียงออกมาได้อย่างน่าสนใจ คุ้มค่าสมกับการรอคอยอันแสนจะยาวนานของแฟนหนังทั่วโลก ที่นับรวมระยะเวลารอคอยจนเหงือกแห้งก็รวมแล้วกว่า 13 ปี อีกทั้งคุณภาพสิ่งที่ได้รับหลังจากได้รับชมจนจบแล้วถือว่าเป็นกำไรของคนดู ตอบแทนการรอคอยได้เป็นอย่างดี

จนเกิดเป็นกระแสอวตารฟีเวอร์ สร้างสีสันไปทั่วโลก ในหลาย ๆ ประเทศในแบบที่ใครเห็นก็ต้องอมยิ้ม หลังจากที่ได้สัมผัสกับประสบการณ์ดูหนังที่อิ่มเอมใจไปตลอดทั้ง 3 ชั่วโมงเต็ม ใครเกิดปวดท้องขณะนั้นบอกเลยว่ามีเสียดายแน่นอน เพราะเมื่อดูหนังเรื่องนี้จบ ก็น่าจะเต็มไปด้วยความประทับใจ พร้อมกับฉุกคิดขึ้นได้ว่าระบบนิเวศแบบ น้ำ กับ เจมส์ คาเมรอน ช่างเป็นส่วนผสม ที่ลงตัวที่จะมาอยู่คู่กันอีกจริง ๆ สมบูรณ์แบบชนิดที่หาตัวเปรียบเทียบได้ยากอย่างยิ่ง

อัปเดตล่าสุดออกมาแล้ว Variety ได้รายงานว่า อวตาร : วิถีแห่งสายน้ำ ขณะนี้สามารถทำรายได้ทั่วโลกอย่างต่อเนื่องได้มากถึง 1,401.3 ล้านเหรียญ (ประมาณ 48,200 ล้านบาท) ซึ่งตอนนี้ ได้ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 14 ของภาพยนตร์อย่างเป็นทางการ ที่ทำรายได้ทั่วโลกสูงสุดตลอดกาล

เป็นลำดับที่ภาพยนตร์ทั่วโลกต้องการขยับขึ้นมาอยู่ในโพลนี้กันทั้งนั้น โดยเป็นรายได้ในสหรัฐฯ อยู่ที่ราว ๆ 444.4 ล้านเหรียญ และจากในประเทศอื่น ๆ สูงถึง 956.9 ล้านเหรียญ ซึ่งก็นับว่าสูงพอสมควร

สำหรับล่าสุด ในตอนนี้ อวตาร : วิถีแห่งสายน้ำ หรืออวตาร 2 สามารถทำรายได้แซงหน้า Black Panther (1.382 ล้านเหรียญ) หนังที่มีภาคต่อออกฉายในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน และ Star Wars Episode VIII : The Last Jedi (1.332 ล้านเหรียญ) อีกทั้งยังสามารถโชว์ฟอร์มเบียด Harry Potter and the Deathly Hallows : Part 2 (1,342 ล้านเหรียญ) จนตกจาก 15 อันดับแรก ของภาพยนตร์ทำรายได้ทั่วโลกสูงสุดตลอดกาลได้อย่างดงามไร้ข้อกังขา

ทั้งนี้ได้มีการคาดการณ์จากผู้ที่ติดตาม การเปลี่ยนแปลงของอันดับหนังทำเงินว่า ‘Avatar: The Way of Water’ มีโอกาสจะทำรายได้แซงหน้า Avengers : Age of Ultron ของมาเวล (1,402 ล้านเหรียญ), ‘Frozen’ (1,450 ล้านเหรียญ) และ ‘Top Gun: Maverick’ (1,488 ล้านเหรียญ) ได้ในเร็ววันนี้ด้วย หากรายได้ยังคงวิ่งต่อเนื่องอยู่เช่นนี้

ด้วยความที่ อวตาร : วิถีแห่งสายน้ำ ในภาคที่ 2 นี้ได้มีการใช้ทุนสร้างไปมหาศาลถึง 350 ล้านเหรียญ และมีการแบ่งงบสำหรับทำการตลาดอีกกว่า 100 ล้านเหรียญ รวมถึงระยะเวลาในการพัฒนาเทคโนโลยี งานภาพ งานตัดต่อต่าง ๆ อย่างละเอียด มานานกว่า 10 ปี

ทำให้ตัวภาพยนตร์ต้องทำรายได้มากกว่า 2,000 ล้านเหรียญ จึงจะถึงจุดคุ้มทุน ซึ่งก็จัดได้ว่าเป็นเป้าหมายที่สูงไม่ใช่น้อย เพราะในอันดับหนังทำรายได้สูงสุดตลอดการทั่วโลก มีเพียง 5 เรื่องเท่านั้นที่สามารถทำได้

🌟 รวมกระแส อวตารฟีเวอร์ ตอกย้ำคะแนนความนิยม

อย่างที่บอกไปในข้างต้น กระแสภาพยนตร์ อวตาร : วิถีแห่งสายน้ำ นั้นแรงอย่างต่อเนื่อง ทำให้แฟนหนังทั่วโลกต่างพากันออกมาแต่งกายเลียนแบบชาวนาวี กลายเป็นภาพสุดน่ารัก สร้างสีสัน และความเฮฮาให้กับผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก โดยกระแสอวตารฟีเวอร์นี้ ก็เกิดขึ้นหลาย ๆ ที่ไม่เว้นแม้แต่ที่ประเทศไทย

ในขณะที่ทั่วโลก กำลังตื่นเต้นไปกับความสนุกของภาพยนตร์อวตาร ล่าสุดเพจเฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติเขาสก จ.สุราษฎร์ธานี ก็ได้ทำการโพสต์ภาพ เจ้าหน้าที่ประจำอุทยาน ทำการแต่งตัวเป็นอวตาร แปลงร่างเป็นชาวนาวี โพสต์ท่าพร้อมระบุข้อความฮา ๆ ให้ชาวเน็ตได้บันเทิงใจว่า “จริง ๆ แล้ว แอดลี่เป็นชาวนาวีค่ะ ความลับนี้ ที่แอดปิดบังมานานแสนนาน วันนี้ได้มีโอกาสบอกทุกคนสักที”

หลังจากที่ชาวเน็ตได้เห็นภาพ พร้อมกับแคปชั่นน่ารัก ๆ นี้ก็เรียกได้ว่า ได้ใจ และได้รอยยิ้มจากบรรดาแฟนหนังไปไม่น้อย หลาย ๆ คนชื่นชอบพากันกดไลค์ ด้วยความชื่นชม และแชร์กันเป็นจำนวนมาก ไม่น่าเชื่อเลยจริง ๆ ว่าจะมีชาวนาวีแฝงตัวอาศัยอยู่ที่อุทยานด้วย เป็นอีกหนึ่งสีสันที่พอจะสามารถการันตีได้อย่างดีว่าอวตารนั้นฟีเวอร์จริง ๆ ในเมืองไทย

ไปต่อกันที่ ประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ใกล้ไม่ไกลจากไทย ภาพของหนุ่ม สปป.ลาว คอสเพลย์เป็นชาวนาวี ขี่มอเตอร์ไซค์โดดเด่นมาแต่ไกล สร้างรอยยิ้มให้กับผู้ที่สัญจรไปมาบนท้องถนน แต่งจัดเต็มขนาดนี้ อดใจไม่มองยังไงไหว ใครเห็นก็พากันยกมือถือขึ้นมาถ่ายกันทั้งนั้น โดยภาพดังกล่าวถูกแชร์ หลังจากที่ภาพยนตร์ Avatar 2 อวตาร : วิถีแห่งสายน้ำ เข้าฉายได้เพียง 3 วัน กระแสอวตารกลับฟีเวอร์มากขนาดนี้

ขนาดใน สปป.ลาว เองก็กลายเป็นสีสัน ที่สร้างความครึกครื้นได้ไม่น้อย งานนี้ใครขี่ผ่านชาวนาวี ล้วนต้องเอียงคอมองตามตาไม่กะพริบอดอมยิ้มไม่ได้ มีความโดดเด่น สีท้าแดดสุด ๆ สะดุดตามาแต่ไกล ไม่เน้นเหมือนจริง ที่นี่เน้นฮา สร้างเอกลักษณ์ในรูปแบบใหม่ให้ชาวนาวี แถมยังไปโพสต์ท่าน่ารัก ๆ จนมีคนแซวว่าขยันโพสต์ท่าซะด้วย ก็พี่ชาวนาวี จากถิ่นลาวเขาเตะตาซะขนาดนี้ จะไม่เป็นข่าวยังไงไหว ถือว่าเป็นสีสันที่มาจากกระแส Avatar ฟีเวอร์ ใครที่ชอบดูเรื่องนี้กันอยู่แล้ว มาเห็นแบบนี้ ต้องถูกใจอย่างแน่นอน

🎥 จับตา Avatar 3 ไม่นานเกินรอ ขอเวลาอีกไม่นาน

อย่างที่ทราบกันเป็นอย่างดี ผู้กำกับ “เจมส์ คาเมรอน” เคยได้วางแผนจะสร้างภาคต่อ ให้กับหนังชุด Avatar ออกมารวมทั้งสิ้น 5 ภาคด้วยกัน โดยอัปเดตสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งทีมงาน นักแสดง และผู้กำกับ ได้ทำการถ่ายทำภาคที่ 2 กับภาคที่ 3 ต่อเนื่องกัน โดยในขณะนี้ “Avatar 3” ซึ่งจะเป็นภาคต่อไปก็ได้ทำการถ่ายทำในส่วนเบื้องหน้าแล้วเสร็จแล้ว แต่ยังคงเหลืองานเก็บรายละเอียด และใช้เทคนิคงานสร้างสุดตระการตา

จุดเด่นที่สุดแสนสำคัญของอวตาร สำหรับใส่เข้ามาในหนัง ที่หลาย ๆ ฝ่ายคาดว่าน่าจะใช้เวลาอีกสักพัก แต่ไม่นานเกินรอเหมือนที่หลาย ๆ คนกังวล โดยทีมงานผู้สร้างของหนังชุดนี้ ได้ออกมาแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมด้วยว่า พวกเขาได้เริ่มทำงานต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายปี 2018 จนถึงปัจจุบันพวกเขาก็ยังไม่หยุดทำงาน

ทั้งนี้ Avatar 3 ภาพยนตร์ภาคต่อ ในเรื่องต่อไป เบื้องต้นทางทีมงานได้วางกำหนดฉายเอาไว้แล้ว นั่นคือช่วงวันที่ 20 ธันวาคม 2024 หรืออีกไม่ถึง 2 ปีต่อจากนี้เป็นต้นไป  แน่นอนว่าที่เมืองไทยเอง ก็จะได้ชมหนังภาคใหม่เรื่องนี้ในระยะเวลาใกล้เคียงกันกับที่อื่น ๆ ทั่วโลก อีกหนึ่งประเด็นสำหรับ อวตารในภาคต่อไป มีความเป็นไปค่อนข้างสูง ว่าภาคใหม่จะใช้มีชื่อว่า “Avatar : The Seed Bearer”

แม้ว่าในตอนนี้จะยังไม่มีการเปิดเผย รายละเอียดเกี่ยวกับ การผจญภัยในภาคใหม่ออกมาก็ตามแต่ แฟน ๆ ของภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้ตั้งข้อสังเกต และมีแนวคิดเกี่ยวกับชื่อภาค ว่าอาจจะเป็นการค้นพบใหม่ ๆ บนดาแพนดอร่า ที่เกี่ยวข้องกับพืชเป็นหลักอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ตามรายงานยังทำให้เรา ทราบข้อมูลมาเพิ่มเติมอีกด้วยว่า “มิเชลล์ โหย่ว” และ “เดวิด ธิวลิส” จะเข้ามาเป็นทีมนักแสดงสมทบ ที่จะเข้ามาเสริมทัพความสนุก ในนามของตัวละครใหม่ใน Avatar 3 The Seed Bearer แต่ด้วยความที่ขณะนี้ อยู่ในช่วงของการฉาย Avatar 2 จึงยังไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการ ว่าพวกเขาจะรับบทเป็นอะไรในหนังภาคต่อ

อย่างไรก็ดีเราจะยังคงได้เห็นทีมนักแสดงหลัก ๆ ชุดเดิมแบบครบทีม ไม่ว่าจะเป็น “แซม เวิร์ธทิงตัน”, “โซอี ซัลดานา”, “ซิกัวร์นีย์ วีเวอร์”, “สตีเฟน แลงก์” รวมถึงนักแสดงวัยรุ่นที่กำลังมาแรง ในภาคปัจจุบันกลับมาโลดแล่นอีกครั้งอย่างแน่นอน

และเมื่อมีการรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้มาจากการสัมภาษณ์ ผู้กำกับมากฝีมืออย่าง เจมส์ คาเมรอน โดยสื่อต่าง ๆ ในระหว่างการเดินสายประชาสัมพันธ์หนัง Avatar 2 นั้น เจมส์ คาเมรอน ก็ได้มีการแย้มข้อมูลเล็กน้อยเดียวกับ Avatar 3 เอาไว้ด้วยว่า ในภาคต่อไปเราจะเป็นการเดินทาง ออกไปสำรวจแพนดอร่าอีกจุดหนึ่ง ที่ยังไม่เคยมีการเปิดเผยในภาพยนตร์ทั้ง 2 ภาคก่อนหน้า

โดยจุดดังกล่าวจะเป็นสถานที่ของอีกเผ่าหนึ่งของชาวนาวี เป็นดินแดนที่จะเต็มไปด้วยเพลิง และเปลวไฟ กับชนเผ่าที่ยังคงเป็นปริศนา มักจะถูกเรียกกันว่า เผ่าเถ้าถ่าน นั่นเอง

แถมให้อีกสักนิด สำหรับแฟนภาพยนตร์ตัวจริง ที่รอลุ้นอยากดูภาคต่อ ๆ ไปอย่างใจจดใจจ่อ สำหรับ Avatar 4 กับ Aแถมให้อีกสักนิด สำหรับแฟนภาพยนตร์ตัวจริง ที่รอลุ้นอยากดูภาคต่อ ๆ ไปอย่างใจจดใจจ่อ สำหรับ Avatar 4 กับ Avatar 5 ปัจจุบันยังคงไม่ได้เริ่มงาน ในส่วนของการถ่ายทำในตอนนี้ แต่อย่างไรก็ดี ทางทีมสร้างได้วางแผน การกำหนดวันฉายออกมาล่วงหน้าเอาไว้แล้ว เป็นวันที่ 18 ธันวาคม 2026 และ 22 ธันวาคม 2028 ตามลำดับ

เชื่อได้เลยว่าสิ่งแรกที่ทุกคนคิดคล้าย ๆ กันคือนี่เป็นเรื่องดี ที่ไม่ต้องรอนานถึง 13 ปี เหมือนช่วงระหว่างภาคแรก และในภาคที่ 2vatar 5 ปัจจุบันยังคงไม่ได้เริ่มงาน ในส่วนของการถ่ายทำในตอนนี้

แต่อย่างไรก็ดี ทางทีมสร้างได้วางแผน การกำหนดวันฉายออกมาล่วงหน้าเอาไว้แล้ว เป็นวันที่ 18 ธันวาคม 2026 และ 22 ธันวาคม 2028 ตามลำดับ เชื่อได้เลยว่าสิ่งแรกที่ทุกคนคิดคล้าย ๆ กันคือนี่เป็เรื่องดี ที่ไม่ต้องรอนานถึง 13 ปี เหมือนช่วงระหว่างภาคแรก และในภาคที่ 2 

ดังนั้นหลาย ๆ ฝ่ายจึงเชื่อว่า หากทีมผู้สร้างทำงานแล้วเสร็จ จากในส่วนงานของ Avatar 3 The Seed Bearer ก็น่าจะเริ่มสร้างภาคใหม่ต่อเนื่องอีก 2 ภาค ถึงเวลานั้น เราทุกคนอาจจะได้เห็นอะไรที่ชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามระยะเวลาที่ควรจะเป็น เอาเป็นว่า…ในระหว่างนี้คอหนังอย่างเรา ๆ ก็อดทนรอ และรักษาเนื้อตัวเอาไว้ให้ดี เพื่อเป็นการรอดูหนังชุดนี้ ในอีกหลายปีต่อจากนี้ไป ภาพยนตร์มหากาพย์ จะต้องไม่ทำให้ทุกท่านผิดหวังอย่างแน่นอน

และนี่คือทั้งหมดของข่าวคราว และการรีวิวอย่างตรงไปตรงมา ในแง่มุมที่ครบถ้วน ตรงประเด็นที่สุด Avatar: The Way of Water ขณะนี้ยังคงฉายอยู่ในโรงภาพยนตร์ในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยเราเอง ทำให้ตอนนี้ยังไม่อาจสรุปรายได้ที่แน่นอนได้อย่างเป็นทางการ ที่หนังเรื่องนี้สามารถทำได้ แต่ที่แน่ ๆ คือ Avatar: The Way of Water กำลังไล่กวาดรางวัล และอันดับมากมายที่มี เพื่อหวังขึ้นเป็นตำนานอีกครั้ง

อัปเดตล่าสุดนอกจากจะขึ้นติดอันดับ หนังทำเงินตลอดกาลได้แล้ว ยังมีโอกาสลุ้นตำแหน่ง แชมป์บ็อกซ์ออฟฟิศ เพิ่มเติมอีกด้วยซึ่งผลจะออกมาเป็นอย่างไรนั้น ก็คงจะต้องคอยตามลุ้นนามเชียร์กันต่อไป ใครที่ยังไม่ได้ตีตั๋วเข้าไปดู บอกเลยว่าเรื่องนี้เป็นอีกเรื่อง ที่คุณไม่ควรพลาด

ขอบคุณที่มาจาก : อวตาร  อวตารฟีเวอร์ อวตารรีวิว ชาวนาวี

• facebook
• twitter
• line