หนังใหม่ล่าสุดจาก ค่ายหนังอารมณ์ดีจีดีเอช You & Me & Me เธอกับฉันกับฉัน หนังฟิลกู๊ดเติมเต็มบรรยากาศ ในแนวย้อนยุค Y2K เรื่องราวความสัมพันธ์ของ 2 ฝาแฝด และอีกหนึ่งหนุ่มที่เข้ามาทำให้ทั้งคู่หวั่นไหว ช่วยให้ผู้ชมหวนคิดถึงไปถึงวันวานอันสดใส
สารบัญ
- 1 You & Me & Me เธอกับฉันกับฉัน หนังฟิลกู๊ดแนวย้อนยุค Y2K
- 2 บทหนังที่จะพาคุณย้อนวันวาน เน้นความเป็น retro
- 3 ดาวรุ่งดวงใหม่ ทักษะการแสดงเหนือชั้น ส่อแววอนาคตไกล
- 4 รีวิวชัด กระแสหนังเธอกับฉันย้อนรอย Y2K ที่กำลังฮิตทั่วบ้านทั่วเมือง
- 5 เปิดวาร์ป “ใบปอ-โทนี่” พระเอกนางเอกหน้าใสใหม่ล่าสุด จากหนัง “เธอกับฉันกับฉัน”
- 6 ค่ายหนังอารมณ์ดี จีดีเอช จัดงาน “ขอบคุณที่มีกันและกันจากใจฉันสู่ใจเธอ” พร้อมเปิดตัวตัวละครลับ
- 7 สรุป
You & Me & Me เธอกับฉันกับฉัน หนังฟิลกู๊ดแนวย้อนยุค Y2K
ถึงคิวของหนังไทยอีกครั้งแล้ว เรื่องแรกของปีจาก ค่ายหนังอารมณ์ดีจีดีเอช ที่เปิดปีกับหนังโรแมนซ์ พาทุกท่านย้อนสมัย อันเป็นหนังแนวถนัด ของทางบริษัทนี้ กับหนังล่าสุดเรื่อง “เธอกับฉันกับฉัน You & Me & Me” หนังประเด็นความสัมพันธ์ และความรักของ 2 พี่น้องฝาแฝด ที่มีกิมมิกตรงที่ไทม์ไลน์ เกิดขึ้นในช่วงยุค Y2K ที่กำลังย้อนกลับมา และได้กลายเป็นกระแสนิยมอยู่ในขณะนี้
เสน่ห์ของหนังเรื่องนี้ เรียกได้ว่าแค่ได้ซึมซับ และหวนคิดถึงไปถึงวันวานอันสดใส กับหนังเรื่องนี้ก็ช่วยสร้างความอิ่มใจ และยังมาพร้อมกับประเด็นดี ๆ ชวนให้น่าติดตาม และการแสดงที่แค่ได้เห็นตัวอย่าง ก็ถือว่าเกินกว่าที่คาดคิดเอาไว้อีก
เธอกับฉันกับฉัน เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในราว ๆ ปี 1999 ขณะที่ทั่วโลกกำลังพูดถึง ปัญหาของ Y2K และข่าวลือที่หนาหูในยุคนั้น ว่าโลกอาจจะแตกในวันสิ้นปี ยู กับ มี ฝาแฝดวัย ม.ต้น ก็เป็นอีกคู่ที่เมื่อได้ยินข่าวลือดังกล่าว ก็เกิดอาการกังวลกับอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้น ทั้งคู่สนิท และรักกันมาก ยู กับ มี แชร์ทุกอย่างร่วมกันในเกือบทุกเรื่อง
จนทั้งคู่ต่างเป็นเหมือนโลกทั้งใบของกัน และกัน แต่แล้วทุกอย่างก็เริ่มมีอะไรแปลกไปจากเหตุการณ์ปกติ วันหนึ่งเมื่อเด็กผู้ชายที่ชื่อ หมาก ได้เข้ามาในชีวิต ของยู กับ มี ทั้งคู่จึงได้สัมผัสกับ “รักครั้งแรก..ที่ไม่อาจแชร์ให้กันได้” เรื่องราวความสัมพันธ์เช่นนี้ ทั้งคู่จะจัดการ และก้าวผ่านช่วงเวลา ที่ทั้งสองต่างก็สับสนบนโลก ที่เหมือนว่ากำลังจะแตกลงไปได้อย่างไร
นี่คือผลงานสร้างหนังใหญ่รับช่วงต้นปี เรื่องแรกอย่างเต็มตัวของผู้กำกับ พี่น้องฝาแฝด วรรณแวว และ แวววรรณ หงษ์วิวัฒน์ ที่ในวงการต่างคุ้นเคยกันดี ว่าทั้งคู่ต่างก็สั่งสมประสบการณ์ต่าง ๆ จากหนังสั้น หนังสารคดี และซีรีส์ดัง ๆ มาตลอดสิบปีของการทำงานที่ผ่านมา หากใครที่พอจะได้ติดตามชิ้นงานของพวกเขา เราเชื่อว่าทุกท่านก็น่าจะสัมผัสได้อยู่ว่า แนวทางน่าจะเข้ากันได้ดีกับความเป็นหนังจีดีเอช และผลลัพธ์ก็ออกมาได้ ก็จัดว่าเป็นผลงานที่ค่อนข้างน่าพึงพอใจไม่น้อยเลย งานสร้าง และการดีไซน์หลาย ๆ องค์ประกอบที่ถูกจับนำมาใส่นั้น มีจังหวะที่เหมาะ และลงตัวใช้ได้ทีเดียว
บทหนังที่จะพาคุณย้อนวันวาน เน้นความเป็น retro
เมื่อได้ผู้กำกับฝาแฝด รับหน้าที่มาทำหนังที่เนื้อหา มีความเกี่ยวกับฝาแฝดด้วยแล้วนั้น จึงทำให้หนัง เธอกับฉันกับฉัน ได้เปรียบในจุดนี้ ที่สามารถกลั่นบทหนังออกมา ด้วยมุมมองความคิด และประสบการณ์ชีวิตของคนได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแฝดจริง ๆ ทำให้เรื่องราวที่พวกเราจะได้เห็น ในหนังเรื่องนี้ค่อนข้างแทรกซึมไปด้วย เรื่องเกี่ยวกับประเด็นความรู้สึก ความเป็นไปรวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตร่วมกัน ของพี่น้องฝาแฝดอย่างมีมิติ แบบที่คนไม่ได้มีแฝด อาจจะนึกไม่ถึง กิมมิกจุดนี้นี่เองที่ทำให้โดดเด่น และกลายเป็นเสน่ห์ของหนังเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นตลอดระยะเวลา 2 ชั่วโมงของหนัง เธอกับฉันกับฉัน จึงเป็นการดื่มด่ำพาผู้ชมทุก ๆ ท่านย้อนกลับไปสู่วันวานที่คิดถึงได้อย่างแนบเนียน
แม้ว่าในส่วนของโครงเรื่อง และบทหนังของหนังเรื่อง เธอกับฉันกับฉัน แทบจะไม่มีอะไรแปลกใหม่ และภาพรวมหนังก็ไม่ได้สร้างอารมณ์ ความรู้สึกเซอร์ไพรส์ตื่นตาตื่นใจ ให้กับผู้ชมเลยแม้แต่น้อย เพราะบทหนังก็ยังคงวนเวียน ยึดหลักตั้งมั่นอยู่ในเซฟโซนต่อไป ตามแบบฉบับจีดีเอช แถมยังพอจะมีกลิ่นอายของหนังเรื่องก่อน ๆ จากค่ายนี้ มาให้เห็นปะปนอยู่บ้างพอสมควร และสร้างบรรยากาศให้อิ่มเอม เน้นใจฟู แบบที่หลาย ๆ คนน่าจะพอคุ้นเคยมาแล้ว
โดยที่จับใส่ความเป็นฝาแฝดเข้ามา ก็เลยถือว่าเป็นไฮไลต์หลักของเรื่องนี้ไปแค่นั้น ประเด็นรักสามเส้าของ ยู กับ มี และเด็กหนุ่มที่ชื่อหมาก ก็ไม่ต่างจากที่คิดถึง ปมความสัมพันธ์ ของเหล่าน้องพี่ในเรื่องเชื่อว่าในมุมของผู้ชม ก็คงจะเดาทางไม่ยาก ส่วนการแทรกเรื่องประเด็นทางครอบครัวเข้ามา เมื่อพิจารณาจากตัวอย่าง และบทก็ถือหยิบใส่เข้ามาแบบไม่ได้เน้นหนักอะไรเท่าไหร่
และคงจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เธอกับฉันกับฉัน จะต้องถูกนำไปเทียบเคียง กับหนังสุดโด่งดังในยุคคลาสสิกจากค่ายนี้ อย่างเรื่อง แฟนฉัน ที่เรียกได้ว่าเป็นตำนาน ของหนังย้อนวันวาน ที่จนถึงตอนนี้ แฟนฉัน ยังไม่เสื่อมคลายลงไป กลายเป็นหนังตำนานถึงจะผ่านไป 2 ทศวรรษแล้วก็ตาม ใช่แล้ว! คุณคิดถูกต้องหนังเรื่องนี้จะมีกลิ่นอายที่คล้าย ๆ กัน บรรยากาศแบบเดียวกันอยู่หลายอย่าง แต่โทนภาพ และจังหวะของหนังระหว่าง 2 เรื่องยังค่อนข้างห่างชั้น กันอยู่พอประมาณ เธอกับฉันกับฉัน อาจจะใส่ความเป็น retro กับ coming-of-age เข้ามาเด่น ๆ แต่กลับยังไม่ได้โดดเด่นชัดเจน ได้ถึงระดับนั้น
ดาวรุ่งดวงใหม่ ทักษะการแสดงเหนือชั้น ส่อแววอนาคตไกล
เมื่อมาว่าถึงการแสดงจากหนังเรื่องนี้ ก็คงต้องบอกเลยว่า ตอนนี้วงการหนังบ้านเรา เราได้เจอเพชรเข้าแล้วจริง ๆ ดาวรุ่งคนใหม่ที่หลายคนให้การยอมรับ ขอชื่นชมการค้นหา นักแสดงของทีมผู้สร้าง และค่ายนี้จริง ๆ เพราะถ้าให้พูด ก็คงพูดอะไรไม่ได้นอกจากคำว่า ไม่รู้ว่าไปหามาจากไหน “ใบปอ ธิติยา” คือนักแสดงหน้าใหม่ ที่เพิ่งจะได้เล่นหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก ย้ำว่าเรื่องแรกของวงการหนัง! แต่การแสดงของเธอเทียบ จัดอยู่ในชั้นมืออาชีพได้อย่างน่าทึ่ง
น้องใบปอที่ต้องเจอศึกหนัก ท้าทายความสามารถสุด ๆ กับการต้องมารับบทเป็นฝาแฝด หรือเป็นรับบทถึง 2 ตัวละคร ในการเล่นหนังเรื่องแรก แต่ผลงานเธอที่ออกมาก็แสดงศักยภาพออกมาได้ อย่างยอดเยี่ยม ไม่มีใครติดขัดกับฝีมือขอเธอแม้แต่นิดเดียว และกลายเป็นว่า ใบปอ ธิติยา เป็นคนเดียวที่แบกหนังทั้งเรื่อง เอาไว้ได้ด้วยร่างเล็ก ๆ ของเธอเอง
สำหรับผลงานในเรื่อง ใบปอ ธิติยา เปิดเผยว่า “หนูดีใจมาก ๆ เลยค่ะ ตั้งแต่ที่รู้ว่าจะได้มาแคสหนังของค่าย จีดีเอช มันเป็นความรู้สึกที่ตื่นเต้นมาก ยิ่งพอรู้ว่าได้เล่นจริง ๆ มันเหมือนฝันเลยค่ะ ไม่น่าเชื่อว่าเราจะได้ทำงานกับค่ายนี้จริง ๆ เหรอ (ชอบค่ายนี้มาก) ดีใจได้ไม่เท่าไร ก็รู้เลยว่างานยากกำลังจะมาถึงเราละ ทันทีที่ได้อ่านบท แล้วรู้ว่าเราต้องเล่นเป็นฝาแฝดคือ ‘ยูกับมี’ หนูรู้เลยว่าหนังเรื่องนี้ เราต้องใช้พลังงานที่เยอะมาก แต่ก็โชคดีที่พี่วรรณ พี่แวว ให้หนูไปเวิร์กชอป ระหว่างนั้นเราเวิร์กชอปกันหนักมาก ๆ เพื่อที่จะทำให้คาแรกเตอร์ ยูกับมีต่างกัน ยูจะเป็นคนหวาน ๆ นิสัยน่ารักเรียบร้อย”
“ส่วนมีจะนิสัยออกเท่ ๆ เจ้าเล่ห์นิด ๆ ช่วงแรก ๆ หนูเล่นไม่ได้เลย กดดันมาก ๆ กลับบ้านร้องไห้เลย เพราะคิดว่าถ้าเราทำไม่ได้แน่ ๆ คนดูคงจะแยกตัวละครไม่ออก เราคงรู้สึกแย่มาก หนูพยายามอย่างหนักกับการแสดงหนังเรื่องนี้ คิดว่าในเมื่อเราได้โอกาสมาแล้ว ก็จะต้องทำให้ดีที่สุด”
และถ้าเราก้าวข้ามผ่านตรงนี้ได้ ใบปอเชื่อว่าเราก็จะเติบโต ไปกับตัวละครยูกับมีได้แน่ ๆ ซึ่งพอหนูหาวิธีที่ จะอยู่กับตัวละครทั้งสองได้ หลังจากที่พยายามอย่างหนัก หนูดีใจมาก มากเสียจนทำให้หนู เกิดความรู้สึกอยากจะมีฝาแฝดเลยค่ะ ‘เธอกับฉันกับฉัน’ เป็นหนังที่ทำให้หนู มีโอกาสได้เติบโตขึ้นไปกับตัวละครในบทบาท โดยที่ตัวเราเองก็ไม่ทันได้รู้ตัว หนูได้ทำอะไรหลาย ๆ อย่าง ที่ไม่เคยทำมาก่อนจากเรื่องไหน อย่างเช่น ฝึกเล่นพิณ, ขี่มอเตอร์ไซค์ ได้ทำอะไรหลายอย่างมาก จากการเล่นเรื่องนี้”
ในหนังเรื่องนี้ ใบปอ ธิติยา สามารถถ่ายทอดบท ยู กับ มี ออกมาได้เป็นเอกลักษณ์ และมีอัตลักษณ์ที่จัดได้ว่าชัดเจน ด้วยฝีมือการแสดงที่ราบรื่น เป็นธรรมชาติของเธอ ผู้ชมแต่ละท่านก็น่าจะหลงใหลไปกับเสน่ห์ของน้องได้ไม่ยาก ในหนังเรื่องเธอกับฉันกับฉัน นับตั้งแต่ซีนแรกที่เปิดตัวเลย ซีนอารมณ์ต่าง ๆ เธอถ่ายทอดทำผลงานออกมาได้ดีเช่นเดียวกัน นี่ขนาดเป็นแค่หนังเรื่องแรก ใบปอ ธิติยา ยังทำได้ระดับนั่งเข้าชิงรางวัลได้สบาย ๆ ขนาดนี้ เธอจึงกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ต้องจับตามองดูให้ดี ๆ สาวน้อยคนนี้น่าจะมีอนาคตที่สดใส และยาวไกลกับวงการหนัง รวมถึงในวงการละครของไทยต่อไป
ในขณะที่น่าจับตามองไม่แพ้กัน อีกหนึ่งหนุ่มหน้าใหม่ ของเรื่องนี้เช่นกัน “โทนี อันโทนี” ถึงบทบาท และคาแรกเตอร์ในหนังเรื่องนี้ ภาพรวมหลังจากที่ได้รับชมหนัง จะยังไม่ค่อยมีมุมมากมาย ให้เขาได้ฉายแสงเท่ากับตัวของ ใบปอ ธิติยา แต่การเดบิวต์เป็นพระเอกหนังเรื่องแรกของเขา ผลงานที่ออกมาก็ถือว่าทำออกมาได้ดี กว่าที่หลาย ๆ คนคิดหรือคาดหวังเอาไว้ โดยเฉพาะเสน่ห์อันแพรวพราว และความเป็นธรรมชาติในการแสดงของเขา ที่ทำให้กล้องที่ฉายต่างหลงรักเข้าเต็มเปา อีกทั้งลีลาการถ่ายทอดอารมณ์ รวมถึงท่วงท่าการแสดง และภาษากายต่าง ๆ ขณะการแสดง ที่สามารถบ่งชี้ในความเป็นตัวของเขาเองในหนังได้อย่างแนบเนียน และน่าหลงใหลทีเดียว
รีวิวชัด กระแสหนังเธอกับฉันย้อนรอย Y2K ที่กำลังฮิตทั่วบ้านทั่วเมือง
เริ่มต้นเปิดเรื่องมา ก็จะเป็นเรื่องราวของฝาแฝดมีกับยู แยกง่าย ๆ สำหรับในมุมของผู้ชมคือ มีจะมีไฝ ส่วนยูจะไม่มี (เป็นวิธีการแยกระหว่างฝาแฝดแบบคลาสสิค) ทั้งสองสนิทกันมาก ซะจนแทบจะกลายร่างเป็นคนเดียวกันได้เลย แต่อย่างว่าแหละนะ คนเราถึงหน้าตาจะเหมือนกัน แต่นิสัยของแต่ละคนยังไงก็ไม่ได้เหมือนไปซะหมดหรอก นิสัยของ มี จะเป็นคนที่มีนิสัยออกแนวห้าว ๆ พร้อมลุยในทุกเรื่อง ส่วนยูจะเป็นสาวน้อย นิสัยน่ารักหวาน ๆ ออกแนวเรียบร้อย บอกเลยว่าเมื่อนำมาพิจารณาประกอบกันทั้งคู่นิสัยต่างกันสุดขั้ว ในที่สุดก็มีเหตุการณ์หนึ่ง ที่ทำให้มีต้องเจอกับพระเอก ซึ่งพระเอกหนุ่มน้อยรายนั้นก็คือหมากนั่นเอง เหตุการณ์นั้นทำให้มีกับหมากตกหลุมรักกัน
เรื่องราวความสัมพันธ์ของทั้งสองกำลังจะไปได้ดี แต่มีเรื่องต้องให้แยกกันซะก่อนพวกเขาต้องแยกจากกัน แต่โลกช่างแคบเสียจริงเมื่อทั้งสองได้เจอกันอีกครั้ง ที่ต่างจังหวัดช่วงปิดเทอมของภาคเรียน แต่ครั้งนี้โชคชะตากลับเล่นตลก เพราะการเจอกันรอบนี้ทำให้หมากได้เจอกับยู ผู้ที่เป็นพี่น้องฝาแฝดของมีเข้าโดยบังเอิญ ทำให้เกิดการเข้าใจผิดกันในที่สุดจึงเกิดเป็นรักสามเส้าของเราสามคน มี ยู หมาก แต่จะจบยังไงนั้นต้องไปดูเองในโรงภาพยนตร์
เรื่องราวระหว่างครอบครัวของแฝดมียู เป็นอีกอย่างที่ทัชใจของผู้ชมเป็นอย่างมาก สื่อให้เห็นถึงการเลี้ยงลูกแฝด รวมถึงการจัดการปัญหาของครอบครัวได้เป็นอย่างดี และความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของแฝดพี่น้องคู่นี้ เหตุการณ์ในช่วงเวลานั้นอย่าง Y2K ที่คนทั้งโลกเชื่อว่าอีกไม่นานโลกกำลังจะแตกอย่างแน่นอนในปี 2000 สำหรับคนยุคก่อน เป็นเรื่องที่หลายคนคิดมาก วิตกกังวลอย่างยิ่ง เพราะไม่มีใครรู้แน่ชัดหรือให้คำยืนยันถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้เลย
การเลือกโลเคชั่นที่ตอบโจทย์ในการถ่ายทำ ทางทีมงานผู้รับหน้าที่ในส่วนนี้ก็สามารถทำได้ดี ทำให้หนังออกมาอย่างสมบูรณ์ดูแล้วไม่หลุดธีมย้อนยุค งานพร็อปประกอบฉากแต่ละอย่างเมื่อเห็นแล้วก็ทำให้หวนคิดถึงวันเก่า ๆ ทั้งการเล่นทามาก๊อตจิ สัตว์เลี้ยงแสนรักยอดนิยมสุด ๆ ของวัยรุ่นยุคนั้น การมีโทรศัพท์มือถือครั้งแรก ที่เมื่อเทียบกับยุคนี้คือทำอะไรมากไม่ได้ นอกจากโทรเข้าโทรออก และการตั้งเสียงเมโลดี้เอง ใครที่เคยผ่านยุคเหล่านี้มาล้วนแต่จะต้องอมยิ้ม ให้กับโมเม้นเหล่านี้ที่ตัวเองก็น่าจะเคยผ่านกันมาบ้าง
และอีกอย่างที่เราจะพลาดไม่ได้ เลยคือความสัมพันธ์ของคู่ฝาแฝด ที่เชื่อว่าคนที่มีแฝดจริง ๆ น่าจะทราบกันดี เป็นอีกอย่างที่ทำให้หลายคนน้ำตาคลอได้เหมือนกันเมื่อได้ชมเรื่องนี้ เพราะเรามีกันอยู่ตลอด แต่ถ้าวันหนึ่งไม่มีขึ้นมาหละ จะเป็นยังไง ไม่ว่าจะเป็นกินข้าวคนเดียว อาบน้ำคนเดียว เข้านอนคนเดียว แค่คิดภาพตามก็เศร้าแล้ว ในเนื้อเรื่องจะทำให้เห็นว่า มีกับยูที่โตมาด้วยกันทำให้ทั้งสองเป็นคนสำคัญในชีวิตของกันและกัน เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไร สุดท้ายทั้งคู่ก็ผ่านมาด้วยกันตลอดทำให้ผู้ชมอินจุดนี้มาก
โดยรวมเรื่องนี้ก็จัดว่าเป็นหนังไทยแนวรักใส ๆ ปกติเลย มีกลิ่นอายของความเป็นยุค 90 อย่างแท้จริงอยู่ตลอดทั้งเรื่อง เหมือนย้อนเวลาไปอยู่ตอนนั้นจริง ๆ ภาพรวมเนื้อเรื่องไม่ได้มีความแปลกใหม่ แต่จะเน้นสร้างความประทับใจในช่วงเริ่มเรื่อง กับช่วงท้าย ๆ เรื่องที่หลายคนต่างลงความเห็นว่าชอบมาก ดูได้สบายๆ มีความตลกเล็กน้อยตามโอกาส ที่ไม่ใช่มุกตลกคาเฟ่โบ๊ะบ๊ะ แต่เป็นอารมณ์ขันแบบการใช้ชีวิตโดยทั่วไปมากกว่า มีความซึ้ง ความเศร้าที่ทำให้หัวใจเจ็บแปลบบ้างแต่ไม่แรงขั้นใจร้าว ก็ถือว่าบทเขียนออกมาได้กลมกล่อมแบบพอดี แม้ว่าแก่นสำคัญของเรื่องหรือธีมของเรื่องนี้ อาจจะไม่มีอะไรมาก แต่ก็สามารถดำเนินเรื่องได้แบบต่อเนื่อง ตรงตามที่ต้องการนำเสนอ ดูแล้วผู้ชมไม่รู้สึกติดขัดขณะรับชม
ปมดราม่าที่หนังเรื่อง เธอกับฉันกับฉัน แอบแทรกมาในเนื้อเรื่อง ทำให้หนังเรื่องนี้ไม่ได้ดูน่าเบื่อจนเกินไป และสอดแทรกแนวคิดของคนยุคนั้นเข้าไป หนังเรื่องนี้มีการเพิ่มปมให้มากขึ้น ด้วยการลงลึกถึงเรื่องความสัมพันธ์ ในครอบครัวของยูกับมี ที่เป็นตัวแปรในการตัดสินใจหลักในการเลือกทางเดินชีวิตของสองสาวฝาแฝด ทั้งเรื่องความรักของคนทั้งสอง และเรื่องครอบครัวทำให้ทั้งคู่เริ่มรู้เริ่มเข้าใจว่า ชีวิตจริงคงไม่อาจอยู่ด้วยกันไปได้ตลอดชีวิตอย่างที่เคยเข้าใจมา
และนั่นแหละคือสิ่งที่ทั้งคู่จะต้องรับมือมันให้ได้ ทำให้เราเข้าถึงเนื้อเรื่องมากขึ้น นักแสดงถือว่าทำได้ดีมาก สำหรับพระเอกนางเอกที่เป็นนักแสดงหน้าใหม่ทั้งคู่ ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีเลยในวงการการแสดง สิ่งที่ชอบอีกอย่างหนึ่งในหนังเรื่องนี้ คือโทนของหนังที่ดูแล้วให้ความรู้สึกอบอุ่น ละมุนไปด้วยความทรงจำมองแล้วสบายตาอิ่มเอมใจ และการแสดงของนางเอกอย่างน้องใบปอ ที่ทำให้ผู้ชมนั้นคิดว่า ฝาแฝดทั้งสองคนในเรื่องที่เราเห็นนี้ เป็นคนที่มีตัวตนจริงและใช้ชีวิตอยู่จริง ๆ
เปิดวาร์ป “ใบปอ-โทนี่” พระเอกนางเอกหน้าใสใหม่ล่าสุด จากหนัง “เธอกับฉันกับฉัน”
เปิดตัวอย่างเป็นทางการ สำหรับสองนักแสดงหน้าใส ใหม่แกะกล่องของวงการภาพยนตร์ไทย “ใบปอ ธิติยา จิระพรศิลป์” และ “โทนี่ อันโทนี่ บุยเซอเรท์” ในเวลานี้ต้องบอกเลยว่า พร้อมแจ้งเกิดอย่างเต็มในภาพยนตร์รักโรแมนติกล่าสุดอย่างเรื่อง “เธอกับฉันกับฉัน” ของผู้กำกับฝาแฝดหญิง วรรณแวว-แวววรรณ หงษ์วิวัฒน์ โปรดิวซ์โดย โต้ง บรรจง ปิสัญธนะกูล ผลงานลำดับล่าสุดส่งตรงมาจากค่ายหนังอารมณ์ดี จีดีเอช นอกจากนี้พล็อตเรื่อง รวมถึงมูดแอนด์โทนของเรื่องที่เลือกใช้ จะพาผู้ชมทุกท่านย้อนกลับไปสมัยยุค Y2K
ยุครุ่งเรืองที่อยู่ในความทรงจำของใครหลายคน ยุคที่ปังที่สุดของวัยรุ่นในสมัยนั้นแล้ว สองนักแสดงนำในเรื่องนี้แต่ละคนก็มีความน่าสนใจไม่น้อย เพราะนางเอกใหม่ อย่างใบปอก็พึ่งได้โอกาสประเดิมหนังเรื่องแรก ก็ได้สวมบทบาทเล่นเป็นฝาแฝดแล้ว ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา ทั้งคู่ได้มีการเวิร์คช็อปอย่างหนัก หลังจากเห็นทีเซอร์แล้ว หลาย ๆ คนต่างบอกได้คำเดียวว่าอยากดูมาก
ค่ายหนังอารมณ์ดี จีดีเอช จัดงาน “ขอบคุณที่มีกันและกันจากใจฉันสู่ใจเธอ” พร้อมเปิดตัวตัวละครลับ
อัปเดตล่าสุดจากค่ายหนังชื่อดัง ‘จีดีเอช’ จัดงาน ‘ขอบคุณที่มีกันและกันจากใจฉันสู่ใจเธอ’ ขึ้นอย่างเป็นทางการ ณ ห้อง ABAR ชั้น 37 โรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค โดยมีพิธีกรมาฝีมืออย่าง โอปอล์ ปาณิสรา รับหน้าที่พิธีกรกล่าวเปิดงาน และเชิญคุณสิริพร ใจสะอาด ผู้อำนวยการสายงาน สายงานสื่อสารภาพลักษณ์องค์กร ของทางบริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ขึ้นกล่าวถึงบรยากาศการทำงาน และการร่วมสนับสนุนหนังไทย ตามด้วยคุณจินา โอสถศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด ขึ้นกล่าวขอบคุณบนเวทีที่ได้เตรียมขึ้น
จากนั้นแขกทุกคนภายในงาน มาร่วมพูดคุยกับโปรดิวเซอร์ โต้ง บรรจง ปิสัญธนะกูล และสองผู้กำกับฝาแฝด วรรณแวว-แวววรรณ หงษ์วิวัฒน์ ถึงความสำเร็จของภาพยนตร์ที่กำลังออกฉายกันอยู่ในเวลานี้ ‘เธอกับฉันกับฉัน’ ที่มีกระแสตอบรับจากผู้ชมดีมากจากทั่วประเทศ ส่งผลให้สองนักแสดงนำอย่าง ใบปอ ธิติยา จิระพรศิลป์ และ โทนี่ อันโทนี่ บุยเซอเรท์ แจ้งเกิดอย่างสมบูรณ์แบบ
และนอกจากนี้ก็ยังมีอีกหนึ่งตัวละครลับ ที่เรียกว่าสำคัญมาก ๆ อย่างยิ่งเรียกได้ว่าถ้าไม่มีคน ๆ นี้ หนังเรื่องนี้ก็อาจจะออกมาไม่เสร็จสมบูรณ์มากขนาดนี้ งานนี้ต้องขอบคุณ น้ำแข็ง-ณัฐวสา ศรีนูเดช อีกหนึ่งนักแสดงลับที่คอยมารับบทเป็นฝาแฝดยูและมี หน้าที่หลักที่ต้องคอยสวิซต์ตัวเอง เพื่อเข้าฉากกับใบปอในทุกซีน ย้ำว่าทุกซีน รวมถึงเข้าฉากกับโทนี่ด้วย
จนทำให้สองนักแสดงนำทั้งใบปอ และโทนี่ ยกให้น้ำแข็งเป็นพี่ใหญ่ในกองไปเลย เพราะการจะทำให้ ‘ยูกับมี’ มีชีวิตขึ้นมาจริง ๆ และทำให้ผู้ชมอินไปกับความเป็นแฝดในหนังนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องยอมรับเลยว่าแค่การแสดงอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีเทคนิคมากมายเข้ามาเสริมทัพ ตามที่ได้เห็นกันใน VTR
ปิดท้ายงานเลี้ยงด้วยความสนุก พบกับโชว์พิเศษจากน้อง ๆ นักแสดงแก๊งพิณ เขียว-จ้อย ในเรื่อง คือน้องไทเกอร์ และน้องโซดา ที่มาร่วมร้องเพลงสร้างสีสันให้กับงาน ชื่อเพลงว่า โอ้น้องยู โดยมีนางเอกสุดฮอตของเรื่องอย่าง ใบปอ ร่วมเล่นพิณเพลง ‘กันและกัน’ และมีพระเอกหนุ่มสุดน่ารัก โทนี่ ร่วมร้องเพลงเพื่อขอบคุณทุก ๆ ที่มีกันและกันเสมอมา
ทางด้าน วรรณแวว-แวววรรณ สองแฝดผู้กำกับ เผยว่า “วรรณกับแวว ต้องขอขอบคุณผู้ชมทุกท่าน รวมถึงเหล่าบรรดาพี่ ๆ สื่อมวลชนทุกคน ที่ให้การสนับสนุนหนัง เธอกับฉันกับฉัน หนังเรื่องแรกของสองผู้กำกับ และน้องๆ นักแสดงที่อยู่ในเรื่องหลายๆ คนน้อง ใบปอ น้องโทนี่ ที่ทุ่มเทกายใจให้หนังเรื่องนี้กันมาก ๆ จนงานสำเร็จลุล่วงได้ในที่สุด เราต้องขอขอบคุณทุกกระแสตอบรับที่มีเข้ามาให้กับพวกเรา สำหรับตอนนี้ชื่นใจมาก ๆ ค่ะ ที่หนังเข้าฉาย 7 วัน สามารถทำรายได้จากการออกฉายทั่วประเทศได้ 30 ล้านบาท
และพวกเราก็คาดหวังเอาไว้เล็ก ๆ ว่าโดยรวมหนังน่าจะก้าวสู่ 50 ล้านในเร็ว ๆ นี้นะคะ รวมทั้งภูมิใจมาก เมื่อทราบข่าวว่าหนัง เธอกับฉันกับฉัน ได้รับคัดเลือกอย่างเป็นทางการให้เป็น 1 ใน 13 ภาพยนตร์เข้าชิงรางวัล GRAND PRIX และ Most Promising Talent Award ในสาย Competition จากเทศกาลหนังที่หลาย ๆ คนน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี ‘Osaka Asian Film Festival 2023’ และยังเป็นภาพยนตร์ตัวแทนประเทศไทยเรื่องล่าสุด ที่ได้รับคัดเลือกจากงานเทศกาลภาพยนตร์ Udine Far East Film Festival 2023 ประเทศอิตาลี
เข้าร่วมแข่งขันรางวัลภาพยนตร์มหาชน (Audience Award) ก่อนที่จะก้าวไปสู่จุดนั้นได้ต้องขับเคี่ยวกับภาพยนตร์คุณภาพจากทั่วโลกอีก 20 กว่าเรื่อง ถือว่าเป็นกำลังใจที่ดีให้กับพวกเราเหล่าทีมผู้สร้างต่อไป สำหรับใครที่ยังไม่ได้ชมหนังเรื่องนี้ โอกาสนี้สามารถใช้เพื่อไปให้กำลังใจกันได้นะคะ ฉายแล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์”
สรุป
โดยทั่วไปแล้วนั้นหนังเรื่อง เธอกับฉันกับฉัน จะมาพร้อมกับการปล่อยของเด็ด คือฉากบรรยากาศต่าง ๆ ในช่วงยุค Y2K เข้ามาเป็นกิมมิก และอีสเตอร์เอ้กให้ผู้ชมได้ค้นหาตาม ก็ถือว่าทีมสร้างพวกเขาทำการบ้าน และตั้งใจอย่างยิ่งในการเก็บรายละเอียด ในช่วงยุคนั้นออกมาได้ค่อนข้างน่าพอใจเลยทีเดียว
ทุกอย่างที่เราจะได้เห็นในหนังเรื่องนี้ ทั้งวัตถุ ทั้งวัฒนธรรม และกระแสนิยมในยุคนั้น ถูกยกเข้ามาประกอบได้อย่างน่าสนใจอยู่ประมาณหนึ่ง เพียงแต่หนังอาจจะยังสร้าง environment ในหนังได้ไม่คมคายถึงที่สุดเพียงเท่านั้น เพราะในหนังเรื่อง เธอกับฉันกับฉัน ยังมีแวดล้อมต่าง ๆ และบางจุดบางมุมที่น่าเสียดาย ที่ยังพลาดไปอยู่บ้าง แต่อย่างไรก็ตามนี่ไม่ถือว่าเป็นประเด็นใหญ่อะไร เพราะไม่ได้ส่งผลกระทบ ต่อภาพรวมของหนังเลย
ขอขอบคุณ : เธอกับฉันกับฉัน งานขอบคุณ