เรือที่ไม่มีวันจม เรือไททานิก การกลับมาของหนังที่สร้างตำนานความรัก ความเศร้า และการสูญเสีย ทำเอาคนดูร้องไห้ตามกันไป
สารบัญ
- 1 เรือไททานิก ภาพยนตร์อเมริกัน แนวมหากาพย์ความรัก และภัยพิบัติ
- 2 เรือยักษ์ ไททานิก เกิดขึ้นจริง สร้างตำนานอันสุดเศร้า
- 3 🚢การสร้างเรือ ไททานิก เรือยักษ์อลังการ
- 4 หัวหน้าทีมวิศวกรที่มีชื่อเสียง ผู้ออกแบบ และควบคุมการต่อเรือไททานิก
- 5 โศกนาฏกรรมที่สุดสลด สิ้นสุดการแล่นเรือ
- 6 💀 การสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ ทะเลกลายเป็นสุสาน 💀
- 7 กลับมาอีกครั้ง “Titanic ไททานิก” โศกนาฏกรรมรักสุดโรแมนติก
- 8 🏆ภาพยนตร์ ไททานิก ตำนานรักบนเรือยักษ์ กับรางวัลออสการ์ 🏆
- 9 รีวิวหนัง ไททานิก สร้างจากเรื่องจริง
- 10 💲 รวมตำนานหนังที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล ขึ้นแท่นหนังที่ไม่มีวันโค่นได้ 💲
เรือไททานิก ภาพยนตร์อเมริกัน แนวมหากาพย์ความรัก และภัยพิบัติ
ในปีนี้ 2023 ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ อย่าง “ไททานิก” (Titanic) จะกลับเข้ามาฉายในโรงหนังอีกครั้ง เพื่อให้คนดูได้ลำรึกของเรือที่ได้ขึ้นชื่อว่า ไม่มีวันจม แต่กลับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เป็นทั้งภาพยนตร์เกี่ยวกับความรัก อาถรรพ์ หรรษา และโศกสลด ที่มีเรื่องราวเกิดขึ้นบนเรือแห่งนี้ แต่ทว่าก่อนจะพูดถึงภาพยนตร์ในเรื่องนี้ เรามารู้เรื่องราว ที่เกิดขึ้นจริง และนำมาทำภาพยนตร์นี้กัน
เรือยักษ์ ไททานิก เกิดขึ้นจริง สร้างตำนานอันสุดเศร้า
เรือสำราญสุดหรูของอังกฤษ เป็นสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ ที่มนุษย์เคยสร้างมาบนโลก และลอยน้ำได้ โดยได้รับฉายาว่า “วัตถุที่ไม่มีวันจม” เป็นพาหนะสำหรับเศรษฐี มีผู้โดยสารบนเรือที่ร่ำรวยที่สุดในโลก มหาเศรษฐี นักธุรกิจระดับโลก นักวิชาการ สื่อมวลชน ชนชั้นสูงที่ยอมจ่ายเงินก้อนโต เพื่อขึ้นไปสัมผัสความสวยงาม ของเรือนี้
หลังจากที่เรือได้เดินทางออกจากท่าไปเพียง 4 วัน จนต้องพบกับจุดจบที่น่าสลด กับข่าวโศกนาฏกรรมในทะเลครั้งใหญ่ เรือไททานิก ที่สวย สง่างาม ได้แล่นไปชนภูเขาน้ำแข็ง ในทะเลแอตแลนติกเหนือ ในช่วงเวลากลางคืน เรือเหล็กหักงอ ซึ่งในขณะนั้น ก่อนเกิดเหตุการณ์พุ่งชนน้ำแข็งยักษ์ ภายในเรือ มีผู้คนมากมายที่กำลังสังสรรค์ ร้องเพลง ดื่มเหล้า เต้นรำ
และมีคู่รักกอดกันจมน้ำตายในห้องนอน ผู้โดยสารจมน้ำตาย เพราะถูกแช่แข็ง เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น ในทะเลมากกว่า 1,500 คน และมีคนรอดตายจากเหตุการณ์นี้ 710 คน
10 เมษายน พ.ศ. 2445 ซึ่งตรงกับสมัยรัชกาลที่ 5 ในยามที่ท้องฟ้าแจ่มใส ผ่านเมืองเซาแธมป์ตัน ในประเทศอังกฤษ เรือที่เต็มไปด้วยผู้โดยสารมากมาย และรอยยิ้มของพวกเขาที่ได้ขึ้นเรือลำนี้ พร้อมที่จะออกเดินทาง เป็นปฐมฤกษ์จากเมืองเซาแธมป์ตัน ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก มุ่งหน้าสู่มหานครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
โดยในเรือ มีมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในตอนนั้น มีชื่อว่า จอห์น จาคอบ แอสเตอร์ ที่ 4 เขาได้จองตั๋วล่วงหน้ามาราว 1 ปีเต็ม และเขาได้ล่องเรือครั้งนี้ เพื่อฮันนีมูนกับสาวน้อยของเขา ในวัย 18 ปี
🚢การสร้างเรือ ไททานิก เรือยักษ์อลังการ
เรือไททานิก ของบริษัทเดินเรือ White Star Line สร้างโดยบริษัท Harland and Wolff ได้รับการออกแบบให้มีความสะดวกสบาย สวยหรู อลังการ บนเรือมีห้องออกกำลังกาย สระว่ายน้ำ ห้องสมุด ภัตตาคาร บาร์ และห้องเต้นรำ มีห้องพักผู้โดยสารจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีโทรเลขไร้สาย ในยุคสมัยนั้น กิจการเดินเรือ ระหว่าง ยุโรป – อเมริกา เป็นธุรกิจที่ทำเงินได้มหาศาล
ในขณะเดียวกัน บริษัทเดือนเรือ Lunard มีเรือเดินสมุทรที่หรูหรา มีชื่อว่า ลูซิาเนีย (Lusitania) ที่ถือว่าเป็นบริษัทคู่แข่งอย่าง White Star Line ทั้ง 2 บริษัทนี้ มีการแข่งขันการบริการ และจุดขายของการเดินเรือ คือ ความหรูหรา และความสะดวกสบายของผู้โดยสาร
เรือไททานิก ถูกสร้างให้เหนือชั้นกว่า เรือลูซิตาเนีย เป็น 1 ใน 3 ของเรือโดยสารชั้นโอลิมปิก สร้างขึ้นระหว่าง พ.ศ.2452 – 2454 โดยอู่เรือ Harland and Wolff ใน Belfast โดยออกแบบให้บรรจุผู้โยสารได้ถึง 2,435 คน สร้างสำเร็จเมื่อ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2454 ใช้เวลาในการสร้างเพียง 2 ปี ตัวเรือไททานิกยาว 270 เมตร และมีความสูง 53 เมตร ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 44 กิโลเมตร / ชั่วโมง
หัวหน้าทีมวิศวกรที่มีชื่อเสียง ผู้ออกแบบ และควบคุมการต่อเรือไททานิก
โทมัส แอนดรูว์ส (Thomas Andrews) เขาคือผู้ออกแบบ และควบคุมการต่อเรือไททานิก พ.ศ.2452 โทมัสเริ่มร่างภาพ ออกแบบ และต้องการใช้ระบบที่ทันสมัยที่สุดในเรือไททานิก จนหลังผ่านการทดสอบได้ไม่นาน เขาก็ได้ทำงานหลายแผนกในบริษัท จนกลายเป็นผู้จัดการ และในปีเดียวกัน เขาก็ได้เป็นสมาชิกในคณะสถาปนิก ของกองทัพเรืออังกฤษ และอีก 6 ปีต่อมา ก็ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่
ความเก่งของโทมัส และทีมงาน ทำให้มีงานออกแบบ และสร้างเรือคู่ขนานกันไปอีก 1 ลำ โดยเรียกกันว่า “เรือพี่ – เรือน้อง” โดยให้ไททานิกเป็นเรือน้อง และพี่สาวคือ Olympic ทีมวิศวกรต่อเรือไททานิกทำงานได้อย่างราบรื่น แล้วตามด้วยเรือแฝดน้อง คือไททานิก
กัปตันเอ็ดวาร์ด จอห์น สมิธ (Captian Edward john Smith) หรือมีชื่อย่อว่า E.J. Smith เขาเป็นกัปตันเรือที่มีชื่อเสียง ในต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 และเป็นคนที่ค่าตัวที่แพงมากที่สุดในยุคนั้น ด้วยความสามารถของเขา เขาเคยเดินเรือข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกมานับครั้งไม่ถ้วน ประสบการณ์ที่โดดเด่น จึงถูกว่าจ้างให้เป็นกัปตันเรือไททานิก
ไททานิกออกจากท่าเรือ เซาแธมป์ตัน แวะจอดรับผู้โดยสารที่เมือง เชอร์บูร์ก ในฝรั่งเศส และควีนส์ทาวน์ ในไอร์แลนด์ ก่อนจะมุ่งหน้าเข้าสู่นครนิวยอร์ก ในเรือมีผู้โดยสาร 3 ระดับคือ ชั้น 1, 2 และ 3 โดยในเรือนี้ มีผู้บริหารสูงสุดของการเดินเรือคือ เจ บรูซ อิสเมย์ (J. Bruce Ismay) และผู้ออกแบบเรือ โทมัส แอนดรูว์ส (Thomas Andrews)
โศกนาฏกรรมที่สุดสลด สิ้นสุดการแล่นเรือ
หลังจากออกเรือมา 4 วัน ในกลางคืนของวันที่ 14 เมษายน พ.ศ.2455 เรือไททานิกที่มีผู้โดยสาร 2,240 คน และลูกเรืออีก 892 คน ที่กำลังใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เพื่อมุ่งหน้าไปสู่นครยิวยอร์ก ได้ชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็งอย่างแรง เมื่อเวลา 23.40 น. และเรือได้จมดิ่งสู่มหาสมุทรในเวลา 02.20น.
เรือไททานิก ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเรือสำราญที่สวยที่สุด กลายเป็นเศษโลหะลอยน้ำที่ใหญ่ที่สุด แตก และจมลง โดยมีผู้โดยสารอีกกว่า 1,000 คน เสียชีวิตลง เพราะในมหาสมุทรที่เย็นจนเป็นน้ำแข็ง จนทำให้ร่างกายรับไม่ไหว แต่จากเหตุการณ์ครั้งนี้ มีผู้รอดชีวิตจำนวน 710 คน ถูกพาขึ้นเรือ คาร์พาเธีย (RMS Carpathia)
ต่อในปี พ.ศ.2528 มีการค้นพบชิ้นส่วนของเรือไททานิก ที่จมนิ่งอยู่ท้องมหาสมุทรลึกลงไปราว 4 กิโลเมตร เรือที่ทำให้ท้องทะเลกลายเป็นสุสาน กลับมาโด่งดัง และเป็นที่รู้จักทั่วโลกอีกครั้ง และนำถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ ให้เราได้รับชมความ
💀 การสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ ทะเลกลายเป็นสุสาน 💀
การชนแฉลบกับภูเขาน้ำแข็ง ทำให้เรือไททานิกหักงอเข้าหากัน ตัวเรือหลายจุดแตกเป็นขนาดใหญ่ และเปิดห้องกันน้ำ 5 ห้อง จาก 16 ห้อง ทำให้น้ำทะเลทะลักเข้ามาหลังจากเรือชน 2 ชั่วโมง 30 นาที และน้ำที่เย็นได้ไหลเข้ามาในห้องโดยสาร เรือเริ่มค่อย ๆ จมลงไปทีละนิด แทบจะไม่มีใครเชื่อว่า “เรือไททานิก” จะประสบอุบัติเหตุใครลักษณะนี้ รับเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ ในการเดินเรือ เป็นความประมาท และเกิดการละเลยที่จะปฏิบัติตามกฎระเบียบ จนนำไปสู่หายนะ นับว่าเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ผู้คนในช่วงเวลานั้น เกิดความเศร้า สลด หม่นหมอง กันเลยทีเดียว
ผลที่ได้หลังการสอบสวน คือการจัดตั้งอนุสัญญาความปลอดภัยของชีวิตในทะเลระหว่างประเทศ (SOLAS : Safety of Life At Sea) ใน พ.ศ.2457 ซึ่งเป็นมาตรการที่ใช้ควบคุมความปลอดภัย การเดินเรือในทะเลมาจนถึงทุกวันนี้ ในมิติด้านสังคม ผู้รอดชีวิต สูญเสีย และถูกทิ้งให้อดอยาก ครอบครัวแตกแยก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สมาชิกของลูกเรือจากเมือง เซาแธมป์ตัน
💸 ในปี พ.ศ.2540 ผู้สร้างภาพยนตร์นำเอาตัวละคร และสถานที่จริงบนเรือ มาสร้างเป็นภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก ทำเงินได้อย่างมหาศาล รวมทั้งเพลงประกอบภาพยนตร์ ที่กระหึ่มไปทั่วโลก
กลับมาอีกครั้ง “Titanic ไททานิก” โศกนาฏกรรมรักสุดโรแมนติก
หวนกลับมาให้เราหายคิดถึงอีกครั้ง เพื่อเฉลิมฉลอง 25 ปี ของภาพยนตร์รักโศกนาฏกรรมอมตะ “Titanic ไททานิก” ผลงานจากผู้กำกับมือทองอย่าง เจมส์ คาเมรอน (James Cameron) เจ้าของรางวัลออสการ์ เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ ให้ผู้ชมได้สัมผัสเรื่องราวความรัก สุดยิ่งใหญ่ อีกครั้งใน 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566 นี้
พาราเมาต์ พิกเจอส์ (Paramount Pictures) และ 20th Century Studiod ภาพยนตร์ภายใต้การผลิตของไลท์สตรอม เอ็นเตอร์เทนเมนท์ “ไททานิก” นำแสดงโดย ลีโอนาร์โด คิแคพรีโอ, เคท วินสาเล็ต, บิลลี เซน, เคที เบตส์, ฟรานเซส ฟิชเชอร์, เบอร์นาร์ด ฮิลล์, โจนาธาน ไฮดด์, แดนนี นุชชี, กลอเรีย สจ๊วต, เดวิด วอร์เนอร์, วิคเตอร์ การ์เบอร์ และ บิล แพกซ์ตัน มาร่วมและด้วยกัน
แรงบันดานใจ ในภาพยนตร์ของคาเมรอน มาจากความหลงใหลในซากเรือแตกของเรือไททานิก เขารู้สึกว่า เรื่องราวความรัก ที่มีการสลับกับการสูญเสีย เป็นสิ่งสำคัญในการถ่ายทอดผลกระทบบางอารมณ์ของภัยพิบัติ ผลงานของภาพยนต์เรื่องนี้ สร้างเริ่มต้นเมื่อปี ค.ศ.1995 ซึ่งเจ้าตัวอย่าง คาเมรอน ได้ลงไปถ่ายทำที่ซากเรือไททานิก และถ่ายทำบนเรือวิจัย อคาเดมิก มิสติสลาฟ เคลดิช ซึ่งคาเมรอน ใช้เป็นฐานในการถ่ายทำ โดยมีการสร้างแบบจำลอง การใช้ภาพที่สร้างจากคอมพิวเตอร์ และการก่อสร้างไททานิกใหม่ที่ “บาฮาทสตูดิโอ” เพื่อใช้ในการถ่ายทำฉากการจมน้ำของเรือ และผู้คน ภาพยนตร์เรื่องนี้ เคยเป็นภาพยนตร์ที่มีทุนสร้างสูงที่สุดในช่วงเวลานั้น โดยมีทุนสร้างประมาณ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
🏆ภาพยนตร์ ไททานิก ตำนานรักบนเรือยักษ์ กับรางวัลออสการ์ 🏆
ภาพยนตร์ ไททานิก เป็นมหากาพย์หนังแอ็กชัน โรแมนติด ว่าด้วยการเดินทางครั้งแรกที่แสนโชคร้าย ของพาหนะที่ใหญ่ที่สุด ที่มนุษย์สร้างขึ้นในขณะนั้น ผลงานกำกับโดย เจมส์ คาเมรอน เจ้าของรางวัลออสการ์ หลากหลายสาขา และนำแสดงโดยเหล่านักแสดงรางวัลออสการ์อย่าง ลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ (Leonardo Dicaprio) และ เคท วินสเล็ต (Kate Winslet)
โดยภาพยนตร์ ไททานิก ได้ฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ค.ศ.1997 ภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้ประสบความสำเร็จอย่างมากในด้านคำวิจารณ์ และรายได้ที่ทำออกไป ได้กลายเป็นแชมป์บ็อกซ์ออฟฟิศ ระดับโลก อันดับ 1 ตลอดกาล และสามารถคว้ารางวัลออสการ์ ได้แก่
- ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Picture)
- ผู้กำกับยอดเยี่ยม (Best Director)
- กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Cinematography)
- ตัดต่อภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Film Editing)
- กำกับศิลป์ยอดเยี่ยม (Best Art Direction-Set Direction)
- ออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม (Best Costume Design)
- ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม (Best Original Dramatic Score)
- เพลงต้นฉบับยอดเยี่ยม (Best Original Song)
- เสียงประกอบยอดเยี่ยม (Best Sound)
- เอฟเฟกต์ฉบับยอดเยี่ยม (Best Sound Effects Editing)
- การตัดต่อเอฟเฟกต์ภาพยอดเยี่ยม (Best Visual Effects)
ผลงานกำกับ และเขียนบทโดย เจมส์ คาเมรอน อำนวยการสร้างโดย เจมส์ คาเมรอน และจอน แลนเดา ร่วมด้วยการผลิตโดย เร ซานชินี ภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้กลับมาอีกครั้ง เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 25 ปี อดีตหนังที่เคยทำเงินถล่มทลาย บนบ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลก ในยุค 90s กลับมาตอกย้ำความประทับใจให้ผู้ชมทั่วโลกอีกครั้ง “จอน แลนเดา” โปรดิวเซอร์หนังชื่อดัง เป็นหนึ่งในผู้สร้าง ไททานิก ได้ประกาศข่าวบนเวทีงาน CineEurope ที่จัดขึ้น ณ เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน โดยเขายืนยันว่า ตำนานหนังรักเรื่องนี้ จะกลับมาฉายในโรงภาพยนตร์อีกครั้ง
รีวิวหนัง ไททานิก สร้างจากเรื่องจริง
มีการพบซากเรือที่มหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ปี ค.ศ. 1985 บร็อค โลเวต นักสำรวจชาวอเมริกัน ได้ดำลงไปสำรวจหาซากเรือ เพื่อหาสมบัติล้ำค่า แต่กลับได้พบภาพวาดลายเส้น รูปหญิงสาวเปลือยกาย และสวมสร้อยคอ และจี้เพชร ผู้ที่เป็นแบบในภาพวาดนั้น ก็คือ โรส สาวที่สวย น่ารัก และเธอได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเรือไททานิก
ย้อนในปี ค.ศ. 1912 แจ็ก ดอว์สัน เด็กหนุ่มที่ชาวอมเริกัน ที่เป็นเพียงเด็กหนุ่มธรรมดาคนหนึ่ง ได้ตั๋วเรือไททานิกชั้น 3 จากการเล่นโป๊กเกอร์ ในเรือไททานิกมีทั้งหมด 3 ชั้น เขาต้องการที่จะไปหาชีวิตใหม่ ทำให้เขาได้พบกับหญิงสาวคนนึง ชื่อว่า โรส เดวิท บูเคเตอร์ เป็นสาวงาม เป็นบุตรีจากชนชั้นสูง และเป็นคุณหนูจากตระกูลผู้ดี ได้เดินทางมากับเรือไททานิกพร้อมกับแม่ของเธอ ก็คือ รูธ เดวิท บูเคเตอร์ และหนุ่มคู่หมั้นของเธอ แคล หรือเซล ดอน นาธาน ฮ๊อคลีย์ เขาเป็นมหาเศรษฐีคนหนึ่ง ผู้หยิ่งยโส และเอาแต่ใจตัวเองอย่างมาก ทั้งคู่ต้องเข้าพิธีแต่งงาน หลังเดินทางไปถึงฟิลลาเดลเฟีย
โรส เธอมีความอึดอัดอย่างมาก กับการใช้ชีวิตในชนชั้นสูง จากการบังคับของแม่ของเธอ และคู่หมั้น เธอไม่พอใจที่ถูกบีบบังคับ และทนใช้ชีวิตที่น่าเบื่อหน่าย ด้วยอารมณ์ชั่ววูบของเธอ เธอวิ่งไปที่ท้ายเรือ และพยายามที่จะฆ่าตัวตาย ทันใดนั้น โรส ได้พบกับแจ็ก ชายหนุ่มผู้ยากไร้ ซึ่งฐานะของเขาทั้งสองแตกต่างกันอย่างมาก แจ็กพยายามที่จะช่วยชีวิตของเธอไว้ ทำให้ทั้งคู่เกิดความสัมพันธ์ขึ้นมา
ฮ๊อกลีย์ คู่หมั้นของโรส ได้ตอบแทนแจ็ก จากการช่วยชีวิตของโรสไว้ ด้วยการชวนขึ้นไปร่วมดินเนอร์ผู้โดยสารชั้น 1 แจ็ก ได้โดยเยาะเย้ยในระหว่างการดินเนอร์ แต่เขาก็ได้ตอบกลับจากคนที่เหยียดเขาด้วยความฉลาด ทำให้โรสได้ประทับใจในตัวเขา แจ็กได้พาโรสไปรู้จักกับชีวิตอีกด้านหนึ่งของเขา ทำให้โรสได้รับสิ่งที่เธอขาดมาตลอด เพราะเธออยากที่จะใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา ความอิสระ ที่ทำได้ทุกอย่างที่เธอต้องการ
โรสได้ใช้ชีวิตอย่างสนุกในส่วนของผู้โดยสารชั้น 3 ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับคู่หมั้นได้ลดลง ขณะที่ความสัมพันธ์ของเธอ และแจ็ก ได้ขยับเพิ่มขึ้น สร้างความริษยา และความแค้นให้กับ ฮ๊อกลีย์ เขาได้ตัดสินใจใส่ร้ายแจ็ก และแจ็กถูกจับกุมไปจังที่ใต้ท้องเรือ จนกระทั่งเรือเดินทางมาถึงจุดสิ้นสุด
ในคืนที่ไททานิกได้พบกับความหายนะ เรือได้พุ่งเข้าชนภูเขาน้ำแข็ง จนบริเวณไต้ท้องเรือเกิดความเสียหาย จนไม่สามารถแก้ไขได้ ความวุ่นวาย และความโกลาหลได้เกิดขึ้น ทำให้ทุกคนบนเรือต่างดิ้นรนที่จะเอาตัวรอด และไม่มีใครเชื่อว่า เรือที่ขึ้นชื่อว่า “ไม่มีวันจม” ได้ดำดิ่งลงสู่ก้นทะเลลึก พร้อมผู้โดยสารอีกเกือบ 1500 ชีวิต ได้จมตายในทะเลที่หนาวเย็น
วงดนตรีได้บรรเลงจนถึงวาระสุดท้ายของเรือไททานิก วอลเลส เฮนรี ฮาร์ตลีย์ หัวหน้าวงดนตรี ได้ให้นักดนตรีบรรเลงเพลง เพื่อช่วยผ่อนคลายบรรยากาศที่ตึงเครียด พวกเขาทำหน้าที่อย่างแข็งขัน และกล้าหาญ จนทุกคนจมไปพร้อมกับเรือ โดยบรรเลงเพลง Nearer my god to thee แปลว่า ใกล้ชิดพระเจ้า ซึ่งเป็นเพลงที่คริสต์ศาสนิกชน ใช้ร้องเพื่อแสดงความไว้อาลัย
โดยธรรมเนียมของกัปตันเรือ เมื่อเกิดเหตุการณ์อะไรก็ตาม เขาต้องลงจากเรือเป็นคนสุดท้าย กัปตันสมิธ จะต้องอพยพจากเรือเป็นคนสุดท้าย ดังนั้น เข้าจึงไม่ได้ลงเรือชูชีพ แต่ได้พยายามช่วยผู้คนจนถึงวาระสุดท้ายคนเขา
วิศวกร แอนดรูวส์ เป็นอีกคนหนึ่งที่ได้ลงเรือชูชีพ เพราะเขาไม่ต้องการเอาชีวิตรอก เพื่อไปพบกับคำวิจารณ์ในภายหลัง เขาเลือกที่จะจมน้ำไปพร้อมกับเรือ เพื่อแสดงความรับผิดชอบอย่างกล้าหาญ เขาเลือกที่จะนั่งรอการตายในห้องสูบบุหรี่ของผู้โดยสารชั้น 1 นั่นเอง
เจ บรูซ อิสเมย์ เขาได้พยายามเอาตัวรอด โดยการเอาผ้าคลุมศีรษะ เพื่อจะพรางตัวเป็นผู้หญิง เพื่อลงไปยังเรือชูชีพก่อน เท่ากันเขาแย่งที่นั่งของเด็ก และผู้หญิงคนอื่น ๆ และเขาได้เจอการเหยียดหยามไปตลอดชีวิต ของผู้ที่ทราบเรื่องราว
ในขณะที่แจ็ก และโรส คู่รักที่พากันหนีความตาย แจ็กได้ช่วยชีวิตให้โรสรอดจากการจมน้ำ เขาได้เสียสละตัวเองจมลงสู่ทะเลไปช้า ๆ ทำให้โรสได้รอดจากเหตุการณ์ครั้งนี้
โดยเรื่องราวทั้งของภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นเหตุการณ์ที่เล่าเรื่องของ โรส หญิงวัยชราที่รอดจากเหตุการณ์การเรือล่มไททานิก ผู้โดยสารคนสุดท้ายที่รอดมา และยังมีชีวิตอยู่ เธอได้เล่าเรื่องราวทั้งความรัก ความเศร้า และความเสียสละ ที่เกิดขึ้นกับเรือไททานิก นับว่าเป็นภาพยนตร์ ที่สร้างความเศร้าให้กับคนดูอย่างมาก
25 ปี แห่งการรอคอย ภาพยนตร์ไททานิก ได้กลับมาฉายให้ได้ดูอีกครั้ง เพื่อรำลึกถึงจากการไป และรำลึกถึงเธอที่ขึ้นชื่อว่า ไม่มีวันจม ใครที่ยังไม่ได้ดู ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ไททานิก กลับเข้ามาฉายในโรงภาพยนตร์อีกครั้ง
นับได้ว่า คาเมรอน สามารถสร้างความสมดุลระหว่างเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ เรื่องราวที่แต่งเติมเข้ามา ความสนุก และความตื่นเต้น โศกนาฏกรรม และความประทับใจ ในบรรยากาศหนังฮอลลีวูด ได้อย่างกลมกลืน โดยเฉพาะฉากที่แจ็กสิ้นลมหายใจ ขณะที่ยังกุมมือของโรส หญิงสาวที่เธอรัก
💲 รวมตำนานหนังที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล ขึ้นแท่นหนังที่ไม่มีวันโค่นได้ 💲
🎖️ AVATAR 2009 หนังที่กำเนิดการทำรายได้ทะลุไม่มีใครแซง
เป็นหนังที่ทำรายได้สูงสุดแห่งปี ที่ยังไม่มีใครมาโค่นได้ ถือว่าเป็นหนังที่สร้างกระแสฮือฮามากในปี 2009 เพราะเป็นการทำหนัง SD ในยุคแรก ๆ ผู้คนต่างตื่นเต้น และอยากเข้าไปสัมผัสกับความรู้สึกใหม่ ๆ ทำให้อวตาร ทำรายได้ตอนนั้นไปถึง $ 2,847,397,339 และเป็นหนังที่ทำเงินในอันดับ 1
โดยมีเนื้อเรื่องของ เจค ซัลลี่ อดีตนายทหารเรือ ผู้พิการที่ต้องนั่งบนรถเข็น แม้ว่าร่างกายไม่สมประกอบ แต่เขาก็ยังมีหัวใจนักรบ เขาได้รับเลือกให้ร่วมเดินทางหลายปีแสง ไปยังดาว แพนโดรา ซึ่งมีเหมืองแร่ล้ำค่าหายาก เป็นหัวใจสำคัญในการแก้ปัญหาพลังงานขาดแคลนของโลก พวกขาจึงต้องพัฒนาโปรแกรมอวตาร เพื่อแปลงร่างสภาวะจิตของคน ให้ไปอยู่ในร่างของอวตาร
🎖️ AVATAR : The Way of Water 2022
และในปี 2022 AVATAR ได้ทำหนังภาค 2 ออกมาชื่อ AVATAR : The Way of Water หลังจากการรอคอยมายาวนานถึง 13 ปี และยังเป็นหนังที่ทำรายได้สูงมาก จากการเปิดตัวไปไม่กี่สัปดาห์ รวมแล้วเกิน $ 1,700 ล้านเหรียญฯ รองจาก SpiderMan : No Way Home ในปี 2021 ที่ทำรายได้ไป 1,910 ล้านเหรียญฯ
🎖️ Avengers : END GAME
Avengers : END GAME ทำรายได้ทั่วโลกไปแล้ว 2,790 ล้านดอลลาร์ โดยอ้างอิงจากเว็บไซต์ Box Office Mojo ขณะที่ AVATAR ที่ออกฉายไปเมื่อ 10 ปีก่อน ทำรายได้ทั่วโลกไม่แพ้กัน ซึ่งทำรายได้แซง AVATAR เพียงใช้เวลาแค่ 87 วัน เท่านั้น ซึ่ง Avengers ยังคงมีหนังในจักรวาลของเรื่องนี้อีกหลายเรื่อง เชื่อมโยงกันไปเป็นภาค และแต่ละหนังที่ทำออกมา ยังสร้างรายได้ของจักรวาล มาเวล (MARVEL) อีกด้วย
โดยในเรื่องของ Avengers : END GAME เป็นเหล่า อเวนเจอร์ ที่ยังคงต้องปกป้องโลกไป ถ้าใครที่ได้ดูไทม์ไลน์ของจักรวาลหนังมา จะเรียงลำดับเหตุการณ์ได้ถูก เหล่าอเวนเจอร์ ต้องปกป้องโลกจากอันตรายครั้งใหญ่ ที่เกินว่าซูเปอร์ฮีโร่คนเดียวจะรับมือได้ อันตรายคั้งใหม่ นั้นมาจากเหงามือของจักรวาล “ธานอส” จอมเผด็จการแห่งจักรวาล เป้าหมายของเขาคือ การรวบรวมอัญมณี อินฟินิตี้สโตนส์ทั้ง 6 เพื่อครอบครองพลังที่เกินจะจินตนาการได้ และใช้อินฟินิตี้สโตนส์ทั้ง 6 เปลี่ยนแปลงความจริงทั้งมวลของจักรวาล ทุกสิ่งที่อเวนเจอร์ได้เผชิญ ต้องมาพบกับความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ และกลายเป็นจบตำนานหุ่นยนต์อย่าง Ironman ซึ่งทำให้คนดูถึงกับน้ำตาไหลตามกันไป
🎖️ TITANIC 1997 ไททานิก
เรียกได้ว่า เป็นหนังรักโรแมนติกที่น่าจดจำไปอีกหนึ่งเรื่อง สำหรับไททานิก โศกนาฏกรรมกลางมหาสมุทร ที่เลื่องลือไปทั่วโลก สร้างจากเรื่องจริง จากเรื่องเล่าผู้ที่รอดชีวิตจากเหตุเรือล่ม ที่นำมาทำเป็นภาพยนตร์ ที่ทำรายได้สูงถึง $ 2,201,647,264 ทำให้อยู่ในอันดับ 3 ของหนังที่ทำเงินตลอดกาล และพลาดไม่ได้ ครบรอบ 25 ปี ไททานิก ได้นำกลับมาฉายให้คนดูได้ดูอีกครั้ง
และนี่คือหนังที่ทำเงินตลอดกาล ที่กวาดรายได้จากคนดูทั่วโลกเป็นพัน ๆ ล้าน ที่ไม่มีใครสามารถมาโค่นลงไปได้ สร้างตำนานการสร้างรายได้กระหน่ำ ถึงแม้ว่าหนังจะได้จบลงไปแล้ว แต่ก็ยังคงเป็นหนังที่ตราตรึงใจของคนดู แล้วใครจะรู้ ว่าในอนาคต อาจจะมีภาคต่อของหนังหลาย ๆ เรื่อง ที่ทำเงินได้สูงสุด อย่าง AVATAR อาจจะมีเรื่องต่อในภายภาคหน้า หรือแม้กระทั่ง Avengers ที่ต้องมีจักรวาลหลาย ๆ เรื่องที่ไม่มีวันรู้จบ รับรองว่าสนุก ทำให้หยุดติดตามไม่ได้